> SET > KCG

11 เมษายน 2024 เวลา 19:06 น.

KCGวัตถุดิบขายดีรับหยุดยาว ทุ่มงบอัพฐาน-ปีนี้โตไม่ต่ำ10%

#KCG#ทันหุ้น - KCG รับทรัพย์ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ คนแห่ช็อปสินค้ากลุ่มนม-วัตถุดิบอาหารและเบเกอร์รี่อื้อ แถมยืนปีนี้รายได้โตไม่ต่ำกว่า10% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว ทุ่มงบ 400 ล้านบาท อัพเกรดระบบไอที-เสริมทัพไลน์ผลิตเพิ่ม ปูทางโกยเงินระยะยาว


นายดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ผู้นำธุรกิจผลิต จัดจำหน่าย และนำเข้าเนย ชีส และผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคชั้นนำจากทั่วโลก เปิดเผยว่า สำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีขึ้นช่วงระหว่างวันที่12-16 เมษายน ซึ่งถือเป็นช่วงวันหยุดยาวนั้นบริษัทมองว่าน่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อบริษัท เนื่องจากผู้ประกอบการร้านอาหารและโรงแรมต่างๆ จะมีการสำรองผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนม ประกอบกับวัตถุดิบในสำหรับอาหารและเบเกอร์รี่มากขึ้น รองรับนักท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าวที่ขยายตัว รวมทั้งเป็นผลดีต่อยอดขายผลิตภัณฑ์ของ KCG ด้วย


อย่างไรก็ดี จากการสำรวจข้อมูลสัดส่วนรายได้ของ KCG ล่าสุด แบ่งเป็น กลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมอยู่ที่ 59%, กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อยู่ที่29% และมี่เหลือมาจากกลุ่มสินค้านอกเหนือจากนี้


*ปีนี้โตไม่ต่ำ10%

ขณะที่ทิศทางผลงานปี 2567 บริษัทประมาณการรายได้เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก หรือไม่ต่ำกว่า10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ผลมาจากภาพรวมการท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศที่ขยายตัวมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ยอดขายสินค้าและฐานลูกค้าของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง


นอกจากนี้ บริษัทได้วางงบลงทุน ไว้ประมาณ 400 ล้านบาท รองรับการปรับปรุงระบบไอทีและเสริมศักยภาพทางด้านไลน์ผลิต อาทิ การจัดซื้อเครื่องจักรระบบออโต้เมชั่นเข้ามาเพิ่มเติม หวังช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวอีกทางหนึ่งด้วย


*โลจิสติกส์พาร์คหนุน

ส่วนโครงการที่บริษัทได้ลงทุนสร้าง KCG Logistics Park หรือศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าแบบครบวงจร บนพื้นที่ประมาณ15 ไร่ โดยนำเทคโนโลยีมาจัดเก็บผลิตภัณฑ์ของKCG ซึ่งครอบคลุมทั้ง 3 อุณหภูมิ ทั้งระบบแช่แข็ง (Frozen) ระบบแช่เย็น (Chill) และ แบบอุณหภูมิห้อง(Ambient) มาใช้ ทำให้สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เนยและชีสมีความสดใหม่ และนำเทคโนโลยีระบบ VMI (Vendor Managed Inventory) มาใช้เพื่อควบคุมระดับสต๊อกและการส่งสินค้าให้ทันเวลาตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งช่วยให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


สำหรับในส่วนของเฟสแรกคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ซึ่งถือเร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ รองรับความต้องการที่เติบโตต่อเนื่อง


ด้านการผลิตได้มีการขยายกำลังผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์ชีสในรูปแบบห่อเดี่ยว(Individually Wrapped Processed Cheese Slices หรือ IWS) เพิ่มขึ้นจากเดิม 2,106 ตันต่อปี เป็น 4,212 ตันต่อปี ไปเรียบร้อยแล้วในเดือนตุลาคมปี2566 ที่ผ่านมา และล่าสุดอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตเนยจากเดิม18,000 ตันต่อปี เป็น 23,000 ตันต่อปี ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี2568


พร้อมกันนี้ ทาง KCG ยังเดินหน้าปรับระบบการขนส่งสินค้าด้วยการเพิ่มสัดส่วนการใช้รถไฟฟ้าพลังงาน สะอาด (EV Truck) โดยวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนเป็น 30% ของจำนวนรถขนส่งทั้งหมด เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อมในห่วงโซ่คุณค่าอย่างยั่งยืน


*กำไรนิวไฮน์เป้า12บ.

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมองเป็นบวกต่อหุ้นKCG เพราะคาดกำไรปี 2567 จะสามารถทำนิวไฮน์ได้ต่อเนื่องจากปี 2567 หลังทาง KCG ประมาณรายได้ปีนี้เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ผลมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เติบโตมากขึ้น ตามผลบวกการท่องเที่ยวที่เติบโต ประกอบกับได้แรงหนุนจากโครงการlogistic park ที่จะเริ่มดำเนินงานในงวดครึ่งหลังของปี2567


ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว จึงทำให้ทาง KCG นั้นสามารถที่จะประหยัดเงินค่าขนส่งและการจัดเก็บสต๊อกสินค้า สำหรับแผนการขยายกำลังผลิตเนยอีก25% อีกทั้งปัจจุบันบริษัทยังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จึงทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น KCG ให้ราคาเป้าหมาย12.00 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X