#CPALL #MTC #ทันหุ้น 

-วันจันทร์ ติดตามดัชนียอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือนมี.ค. โดยตลาดคาดว่าจะออกมาที่ 0.3% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.6% MoM ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการเนื่องจากเป็นวันหยุดพิเศษตามเทศกาลสงกรานต์

วันอังคาร ติดตามตัวเลข GDP จีนประจำไตรมาสที่ 1 โดยตลาดคาดว่าจะออกมาที่ 5.0% YoY เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ 5.2% YoY พร้อมทั้งติดตามการรายงานดัชนียอดค้าปลีกและดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนมี.ค. โดยตลาดคาดที่ 4.5% YoY และ 5.4% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 5.5% YoY และ 7.0% YoY ตามลำดับ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการเนื่องจากเป็นวันหยุดพิเศษตามเทศกาลสงกรานต์

วันพุธ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานของยุโรปประจำเดือนมี.ค. โดยตลาดคาดว่าจะออกมาที่ 2.9% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.1% YoY ขณะที่ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการเนื่องในวันสำคัญทางศาสนาฮินดู

วันพฤหัสฯ ติดตามยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ ในเดือนมี.ค. โดยตลาดคาดว่าจะออกมาที่ 4.2 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 4.38 ล้านยูนิต

วันศุกร์ ติดตามดัชนียอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือนมี.ค. โดยตลาดคาดที่ 0.7% YoY จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.4% YoY

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย : KS เราประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,390-1,410 จุด ปัจจัยต่างประเทศถูกกดดันจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 3.5% มากกว่าคาดที่ 3.4% และเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 3.8% มากกว่าคาดที่ 3.7% ส่วนบันทึกการประชุมเฟดยังคงต้องการความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อจะปรับลดลงตามกรอบเป้าหมาย 2% โดยถ้าเงินเฟ้อยังคงอยู่ระดับสูง โอกาสการลดอัตราดอกเบี้ยจะลดลง ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool มองเฟดลดอัตราดอกเบี้ยปีนี้เหลือ 2 ครั้ง สำหรับปัจจัยภายในประเทศได้แรงสนับสนุนจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ มาตรการอสังหาฯ ดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ กนง. คงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.5% ด้วยมติ 5:2 แต่อยู่ในช่วงวันหยุดยาว โวลุ่มการซื้อขายเบาบาง น่าจะแกว่งตัวออกด้านข้าง ส่วนนักวิเคราะห์ประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยปี 2024 ลดลงต่อเนื่องที่ 92.71 (-0.15% WoW) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นที่ 2.75%

ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,390 – 1,410 จุด ปัจจัยต่างประเทศถูกกดดันจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นที่ 3.5% คาดเฟดคงอัตราดอกเบี้ยนานขึ้น ปัจจัยภายในประเทศได้แรงหนุนจากมาตรการอสังหาฯ ดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่นักวิเคราะห์ยังปรับประมาณกำไรตลาดหุ้นไทยปีนี้ลดลงต่อเนื่องเหลือ 92.71

CPALL: ราคาพื้นฐานที่ 78 บาท

7-11 ได้รับประโยชน์จากโครงการ Digital Wallet เราคาดรายได้ของ CPALL จะเติบโต 10.2% YoY และกำไรหลักเติบโต 16.9% YoY ในปี 2567 ด้วยสมมติฐาน SSSG ที่ 3% (1Q67 อยู่ที่ +4%) ของธุรกิจ CVS หนุนจากการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น และการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เราเชื่อว่ากำไรสุทธิครึ่งแรกปีนี้ของ CPALL จะเติบโตขึ้นหนุนจากผลบวกจากฐานที่ต่ำและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง ขณะที่คาดการเติบโตของกำไรสุทธิในช่วงครึ่งหลังปี 2567จะมีปัจจัยหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น

MTC : ราคาพื้นฐาน 52 บาท

โครงการ Digital Wallet คาดประชาชนมีเงินเหลือจะมาชำระหนี้มากขึ้น เป็นปัจจัยหนุน Cash collection สำหรับภาพปี 2567 ผู้บริหารตั้งเป้าหมายเพิ่มสินเชื่อต่อสาขาเป็น 20-21 ลบ.ในปี 2567 จาก 19 ลบ.ในปี 2566 MTC ตั้งเป้าสินเชื่อปี 2567 เติบโต 20% เทียบกับ 19% ในปี 2566 และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ปี 2567 อยู่ที่ 46-47% เทียบกับ 47% ในปี 2566 ผู้บริหารเชื่อว่าการลด NPL จะทำให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการหาลูกค้าใหม่แทนการติดตามหนี้

KS Research

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=