> กองทุน >

08 พฤษภาคม 2024 เวลา 15:12 น.

บลจ.จิตตะเวลธ์ ชู AI คัดหุ้น ปักหมุดจีนชี้ของดีราคาถูก

#บลจ.จิตตะ เวลธ์ #ทันหุ้น บลจ.จิตตะ เวลธ์ พร้อมโชว์ผลงาน AI คัดหุ้นเข้าพอร์ต ชี้ความแม่นยำสูง ช่วยหาตลาดที่สร้างโอกาสในระยะยาว โดยปีนี้ชี้ไปที่หุ้นจีน หลังงบ บจ.ออกมาดี ทำให้มีหุ้นคุณภาพราคาถูกเพียบ ทางด้าน เอเวอร์แกรนด์ ชี้สัญญาณเริ่มต้นของจุดจบในภาคอสังหา ส่วนความเสี่ยงยังมีโดยะเฉพาประเด็นปัจจัยภูมิรัฐสาสตร์


นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด หรือ บลจ.จิตตะ เวลธ์ กล่าวว่า บริษัทนำเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลลงทุน เพื่อสร้างโอกาส และประเมินความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งผลการวิเคราะห์ของ AI ถือว่ามีความแม่นยำสูง โดยเฉพาะในเรื่องของการวิเคราะห์ Fundamental หรือ ปัจจัยพื้นฐาน โดยจากการทดสอบย้อนกลับ หรือ Backtest นั้น พอร์ตลงทุนที่วิเคราะห์ โดย AI ทำผลตอบแทนได้ชนะตลาดด้วย


“จริงอยู่ว่าปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ดี การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ดี ล้วนเป็นความเสี่ยงที่คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ แต่ข้อมูลที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤต ก็จะถูกเก็บใส่ในฐานข้อมูล เพื่อประเมินและวิเคราะห์โอกาสทางการลงทุนในอนาคต ว่ากรณีที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โอกาสของการลงทุนจะอยู่ตรงไหนจะต้องปรับพอร์ตลงทุนอย่างไรให้ทันกับสถานการณ์”


*วิเคราะห์พื้นฐานแม่น

นายตราวุทธิ์ กล่าวต่อไปว่า AI มีความแม่นยำในเรื่องของ Fundamental แต่การที่หุ้นจะขึ้นหรือลงช่วงไหน เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ดังนั้นวินัยในการลงทุนจึงมีความสำคัญในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว ซึ่งแม้ AI จะบอกไม่ได้ว่าหุ้นจะขึ้นลงตอนไหน แต่สามารถบอกได้ว่า Fundamental ตลาดไหนที่เป็นโอกาสของการลงทุน ณ ตอนนั้น เช่น หุ้นดีที่ราคาถูก หุ้นงบสวยแต่ตลาดยังไม่ฟื้น ทำให้ผู้ลงทุนสามรารถปรับพอร์ตกระจายลงทุนในตลาดที่มีโอกาสได้


“ในปีนี้ ข้อมูล ของ จิตตะเวลธ์ แนะนำลงทุนในจีน เพราะ AIของเราวิเคราะห์จากข้อมูลพื้นฐานเห็นหุ้นดีราคาถูก กำไรบจ.ฟื้นตัว ซึ่งเมื่องบดีทำกำไรเชื่อว่าในอนาคตเม็ดเงินก็จะกลับเข้ามา แต่ก็ยังมีปัจจัยเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ เข้ามากระทบ ดังนั้นการลงทุนในช่วงสั้นอาจผันผวนต่อได้ แต่ในระยะยาวเม็ดเงินก็ต้องไหลเข้ามาในตลาดที่หุ้นดีราคาถูกเช่นกัน ในส่วนของปัญหาภาคอสังหา หลังจากเอเวอร์แกรนด์ ได้ยื่นล้มละลาย เรามองว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบ คือเห็นความชัดเจนมากขึ้นของปัญหา ทำให้นักลงทุนพิจารณากลับเข้ามาลงทุน”


นายตราวุทธิ์ มองอีกว่า ตลาดหุ้นเป็นอีกดัชนีที่ชี้วัดอำนาจเศรษฐกิจ และจีนที่กำลังแข่งขันกับสหรัฐเพื่อก้าวเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจย่อมไม่ทำลายตลาดหุ้นของตัวเองแน่นอน แม้ที่ผ่านมามาตรการต่างๆจะออกมาไม่เอื้อต่อบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม


*หุ้นจีนเริ่มฟื้น

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนสามารถฟื้นตัวได้จริง ตามที่ได้คาดการณ์ไว้ ผลตอบแทน (YTD) ของ Jitta Ranking ประเทศจีนเป็นอันดับ 1 จาก 115 กองทุนจีนในไทย โดย Jitta Ranking หุ้นจีนเพิ่มขึ้น 21.02% และ Jitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีจีน เพิ่มขึ้น 21.16% เทียบกับดัชนี CSI 300 ที่เพิ่มขึ้น 6.44% ขณะที่ Jitta Ranking หุ้นฮ่องกงเพิ่มขึ้น 16.30% เทียบกับดัชนี Hang Seng 5.80% (ข้อมูล 30 เม.ย.67)


นายตราวุทธิ์ กล่าวว่า บริษัทนำ AI มาต่อยอดกับการให้บริการกองทุนส่วนบุคคลของ บลจ.จิตตะ เวลธ์ ด้วยชุดข้อมูลขนาดใหญ่ที่มี ประกอบกับจำนวนกองทุนส่วนบุคคลกว่า 68,000 พอร์ต มากที่สุดในประเทศไทย AI ผ่านการทดสอบกว่า 12 ปี ผ่านทุกวัฏจักรการลงทุน ทั้งช่วงตลาดเติบโตและตกต่ำ และพิสูจน์ผลตอบแทนยิ่งสูงหลังวิกฤติ


นอกจากนี้จิตตะ เวลธ์ ยังนำระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ (Automated Investing) มาบริหารจัดการพอร์ตลงทุนให้กับนักลงทุนอย่างครบทุกมิติ ทั้งการบริหารความเสี่ยง การจัดสินทรัพย์ให้กระจายทั่วโลก รวมถึงการปรับพอร์ตรายบุคคลอัตโนมัติอีกด้วย จิตตะจึงถือเป็นผู้นำในการใช้ AI เพื่อการลงทุนที่แท้จริง


บทพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพการทำงานของ AI ในการลงทุนคือ การวัดผลตอบแทน ซึ่งหากเทียบผลตอบแทนของ Jitta Ranking ที่บริหารจัดการการลงทุนด้วย AI กับกองทุนอื่นๆ ในอุตสาหกรรม ตลอดช่วง 4 ปีกับ 1 ไตรมาสที่ผ่านมา พบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ผลตอบแทนของ Jitta Ranking สามารถเอาชนะผลตอบแทนของกองทุนส่วนมากในประเทศ


โดย Jitta Ranking หุ้นเวียดนาม สร้างผลตอบแทน 140.27% เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุนหุ้นเวียดนาม นอกจากนี้ Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ ก็สร้างผลตอบแทนได้ถึง 77.47% เป็นอันดับ 3 จากกองทุนหุ้นสหรัฐฯ 28 กองทุน


“จากสถิติพบว่าผลตอบแทนของกองทุนที่ Jitta Wealth ใช้ AI ในการบริหารพอร์ต เมื่อนำมาเทียบผลตอบแทนกับกองทุนอื่นๆ แล้ว กองทุนของ Jitta Wealth สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นอันดับต้นๆ ของกองทุน ที่ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Jitta Ranking ที่ลงทุนในประเทศต่างๆ หรือ Global ETF ที่กระจายการลงทุนไปทั่วโลก ดังนั้นหากนักลงทุนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกลงทุนในกองทุนไหนดี การลงทุนกับ Jitta Wealth ก็มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนได้ดีกว่ากองทุนทั่วไปโดยเฉลี่ย”


ล่าสุดจิตตะ เปิดตัว Jitta Market Prediction ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ในแบบ AI Predictive Analytics ที่มีการนำฐานข้อมูลการลงทุนมาวิเคราะห์ในทุกมิติ สร้างโมเดล เพื่อเฟ้นหาตลาดที่น่าลงทุน และมีศักยภาพที่จะสร้างผลกำไรดีที่สุดในอนาคต ช่วยให้การลงทุนมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และสร้างผลตอบแทนได้ดีมากขึ้น โดย AI บ่งชี้ว่า เวลานี้ หุ้นจีน-ฮ่องกงเป็นตลาดที่น่าลงทุน และมีโอกาสสร้างผลตอบแทน ในระยะยาวได้มากที่สุด

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X