คิดเป็นเห็นก่อน : ขึ้นขาย ลงซื้อ เน้นปลอดภัย ลดความเสี่ยง

#ทันหุ้น - บรรยากาศการลงทุนที่ดูซบเซามาต่อเนื่อง แรงซื้อไม่กล้ารับสู้ เน้นปลอดภัย ลดความเสี่ยง ขึ้นขาย ลงซื้อระมัดระวังตัวกันเสียส่วนใหญ่ นักลงทุนมือใหญ่ เงินหนา ทั้งกองทุน และต่างชาติ ไร้ซึ่งสัญญาณการซื้อต่อเนื่อง สลับเปลี่ยนหมุนตัวเล่นแต่ละวันแทบไม่ซ้ำ ตัวไหนมีกระแสก็โหนตามกันไป จะเรื่องผลประกอบการที่กำลังทยอยประกาศ รวมถึงสตอรี่ เรื่องราวเล่าบอกในเชิงบวกของตัวหุ้นก็ว่ากันไป ไม่เฉพาะเจาะจงหุ้นกลุ่มไหน หรือตัวใดเป็นพิเศษ มีกำไรก็พร้อมจะขายกันได้ตลอดเวลา ดังนั้นนักสู้หุ้นทั้งหลาย ต้องเข้าใจภาวะตลาดที่ขับเคลื่อนในตอนนี้ ยังไม่ใช่การโหมเข้าใส่ สู้กันเต็มรูปแบบ เป็นแต่เพียงแค่การเล่นเก็งกำไร ระยะสั้นๆ

ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่หนุน จะมีก็เพียงเรื่องผลการดำเนินงานที่พอจะผลักดันราคาหุ้นได้อยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด แรงกดดันปัจจัยเชิงลบยังมี โดยเฉพาะเรื่องโควิด รวมถึงแนวโน้มมาตรการล็อกดาวน์ ที่อาจยกระดับเพิ่มขึ้น หากสถานการณ์หลังจากนี้ยังไม่ดีขึ้น ยิ่งเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นให้ดูมีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น

ความผันผวนจึงยังคงมีอยู่แน่นอน ช่วงนี้นักลงทุนคงต้องใช้กลยุทธ์เดิมๆ ขึ้นขาย ลงซื้อ เลือกหุ้นที่มีปัจจัยสนับสนุน มีวอลุ่มการซื้อขายที่คึกคักสักหน่อยเพื่อหวังเก็งกำไรกันก็พอทำได้ หรือจะมองหาหุ้นพื้นฐานดีที่ผลประกอบการออกมาดี อนาคตยังมีการเติบโตได้ แต่ราคามีการย่อลงมาจากการ Sell on Fact หลังประกาศงบแล้ว โดยที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนและยังมีมูลค่าที่แท้จริงสูงกว่าราคาบนกระดาน ก็น่าค้นหาแล้วเก็บสะสมเข้าพอร์ตถือรอคอยในจังหวะนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกันครับ

การลงทุนในหุ้นเพื่อหวังผลตอบแทนที่ดี และปราศจากความเสี่ยง หลักคิด แนวคิด การเลือกเฟ้นหาหุ้นลงทุนส่วนใหญ่จะว่าด้วยการมองหาหุ้นจากพื้นฐานที่แท้จริงของหุ้น ประเมินให้รู้ถึงมูลค่าหุ้นในอนาคตที่มีส่วนต่างของราคาหุ้น ณ ปัจจุบันที่นักลงทุนสามารถตักตวงทำกำไรกันได้มากน้อยเพียงใด คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ ประกอบกับพิจารณาปัจจัยรอบด้านที่จะเข้ามากระทบและส่งผลต่อภาพของการลงทุนให้เปลี่ยนแปลงไป

ด้วยทิศทางในระยะสั้นของตลาดหุ้นไทยที่ยังไม่ชัดเจน มุมมองของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จึง แนะนำให้นักลงทุนเลือกเน้นลงทุนในหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวแต่ราคามีการลดลงมา และมีการจ่ายปันผลในระดับสูง เป็นหุ้นที่เหมาะเข้าทยอยเก็บสะสมลงทุนในภาวะตลาดเช่นนี้

ดังนั้น ในช่วงที่ทิศทางของตลาดที่ยังไม่ชัดเจน จากตัวแปรปัจจัยเชิงลบที่ยังมีอยู่ แม้หลังจากนี้จะมีปัจจัยเก็งกำไรในเรื่องผลประกอบการไตรมาส 1/67 ที่กำลังจะทยอยประกาศออกมาก็ตาม แต่เราก็ต้องติดตามเฝ้าดูตลาดด้วยความมีสติ คิดพิจารณา ต่อปัจจัยกระทบที่เกิดขึ้นและที่จะเกิดขึ้นให้ครบถ้วน ในทุกแง่มุมของการลงทุน ก็จะทำให้การลงทุนของเรามีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างพึงหวังมากกว่าเสียหายขาดทุน