นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) เปิดเผยว่า ทิศทางการรับส่งพนักงานในช่วง 3 เดือนแรกปี 2567 ที่ผ่านมา ดูดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ เนื่องจากภาพรวมอุตสาหกรรม โรงงานกลับมาผลิตสินค้าได้เป็นปกติ
อีกทั้งหลายโรงงานมีการรีวิวต้นทุนการพอสมควร และต้องการการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ บุคลากร หรือพนักงานคือส่วนหนึ่งในการผลิต ทำให้หลายโรงงานหันมาพิจารณาค่าใช้จ่าย และสะท้อนออกมาเป็นการดูแลพนักงาน หรือสวัสดิการให้กับพนักงาน
ประกอบกับในอดีตที่ผ่านมา การแข่งขันมีอยู่ค่อนข้างมาก เพราะช่วงโควิด รถท่องเที่ยวหันมาให้บริการรับส่งพนักงาน ทำให้การแข่งขันช่วงดังกล่าวสูง แต่ปัจจุบันการท่องเที่ยวกลับสู่ภาวะปกติ ทำให้รถรับส่งพนักงานกลับไปสู่การรับส่งนักท่องเที่ยวเช่นเดิม ส่งผลให้การแข่งขันเบาบางลง
ขณะที่ทิศทางผลงานไตรมาส 1/2567 มองว่าดีกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของลูกค้าใหม่ และการผลิตที่อยู่ในระดับปกติ ส่งผลให้ภาพรวมการรับส่งพนักงานของ ATP30 เติบโตต่อ ส่วนไตรมาส 2/2567 บริษัทเชื่อว่าการรับส่งพนักงานจากแหล่งชุมชนไปสู่โรงงานอุตสาหกรรมจะเป็นภาพปกติ บริษัทมีความพร้อมในการให้บริการ โดยปัจจุบันบริษัทมีจำนวนรถให้บริการอยู่ 680 คัน
ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายจะส่งเสริมให้ลูกค้าใช้รถ USE หรือรถที่ให้บริการอยู่ โดยเป็นการปรับปรุงสภาพและต่อสัญญาเพิ่มเติม โดยการใช้รถ USE จะช่วยให้ลูกค้าประหยัดต้นทุน บริษัทจะใช้แอสเซทที่มีอยู่อย่างเต็มที่ และทำให้สภาพคล่องดีขึ้น
สำหรับพื้นที่หลักในการให้บริการของ ATP30 อยู่ในเขตภาคตะวันออก หรือ EEC คิดเป็น 70-80% ของรายได้ อีกทั้งบริษัทได้ขยายธุรกิจไปสู่จังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา โดยพื้นที่ EEC บริษัทจะติดตามการขยายตัวของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการจีน
ปัจจุบันบริษัทมีสัญญาการให้บริการกับลูกค้ารวม 70 ราย คาดจะสนับสนุนการเติบโตรายได้ในปี 2567 ไปที่ระดับ 720 ล้านบาท พร้อมกันนี้บริษัทจะเจรจากับลูกค้ารายใหม่ เพื่อให้ใช้รถบัสไฟฟ้ามากกว่ารถน้ำมัน อีกทั้งลูกค้าหลายรายยังให้ความสำคัญกับเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่พอสมควร บริษัทมีรถไฟฟ้าสำหรับให้บริการรับส่งบุคลากรจากแหล่งชุมชนไปสู่โรงงานจำนวน 8 คัน และเตรียมจะรับรถใหม่จากผู้ประกอบการอีก 3 รายคาดจะรับมอบได้ในช่วงเดือนหน้าเป็นต้นไป
ขณะเดียวกันบริษัทมองต้นทุนธุรกิจค่อยๆ ปรับตัวลดลง หลังจากปีก่อนบริษัทปรับปรุงสภาพรถบริการไปเกือบหมดแล้ว ทำให้ภาพต้นทุนบริษัทลดลงอย่างชัดเจน สำหรับต้นทุนที่ปรับตัวลง นอกจากการปรับปรุงสภาพรถส่วนใหญ่ที่หมดไป อีกประเด็นหนึ่งมาจากราคาน้ำมันที่ลดลงราวๆ 2% ของรายได้รวม และจะกลับมาเป็นอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ให้กับบริษัท
เบื้องต้นคาด Net Profit Margin ปี 2567 จะอยู่ที่ระดับ 8-10% จากเดิมที่เคยทำได้ที่ระดับ 4-5% เพราะต้นทุนราคาน้ำมันทรงตัว ประกอบกับปี 2567 บริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการนำรถบัสเข้าซ่อมบำรุง
นายปิยะ กล่าวต่อว่า ธุรกิจโมเดลใหม่ บริษัทอยู่ระหว่างนำเสนอโปรเจ็กต์ให้กับลูกค้า รวมถึงรายละเอียดการคำนวณคาร์บอนต่างๆ คาดจะใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ส่วนกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มงานอุตสาหกรรม โดยในย่าน ชลบุรี ระยอง ให้ความสำคัญกับกระแส ESG ค่อนข้างมาก ขณะที่การใช้รถไฟฟ้าสำหรับรับส่งพนักงานจากแหล่งชุมชนไปโรงงานอุตสาหกรรม
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม