#TACC #CEYE #ทันหุ้น - โบรกคัดหุ้นผลงานเด่น ชี้ TACC เข้าตา หลัง Q4/2566 ดีกว่าคาด ส่งผลให้ปี 2566 กวาดกำไรเข้าพอร์ตไป 206.61 ล้านบาท คาดปีมังกรติดเครื่องวิ่งต่อ ดีดลูกคิดกำไรทะยานแตะ 242 ล้านบาท โต 17% จับตาหน้าร้อนฮิตเครื่องดื่มขายดี แนะ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 7.60 บาท

นางสาววิลาสินี  บุญมาสูงทรง  ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ประกาศผลประกอบการปี 2566 โดยมีรายได้อยู่ที่ 1,727.44 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 206.61 ล้านบาท โดยไตรมาส 4/2566 เติบโตออกมาดีกว่าที่คาดมีกำไรสุทธิ 58 ล้านบาท แม้มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการตั้งสำรองค่าเผื่อด้อยค่าเงินลงทุนนบริษัทร่วม (TCI) อยู่ที่ 17 ล้านบาท หากตัดรายการดังกล่าวออกไป กำไรปกติจะอยู่ที่ 71 ล้านบาท ดีกว่าคาด 25%

** กำไรโตต่อ 17%

ส่วนแนวโน้มปี 2567 ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรจะเติบโต 17% หรือมีกำไรเพิ่มเป็น 242 ล้านบาท  โดยการเติบโตหลักมาจากการขยายสาขาของ 7-eleven และกลุ่ม Non 7-eleven และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขณะเดียวกันหาก TACC ขายเงินลงทุนใน TCI แล้ว จะทำให้บริษัทไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนปีละราวๆ 10 ล้านบาท

อีกทั้งฝ่ายวิเคราะห์มองการเติบโตระยะสั้นจะมาจากการเข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งปีนี้คาดจะร้อนเร็วกว่าปกติ และจะสนับสนุนการบริโภค เครื่องดื่มของ TACC ให้มีการเน่งตัวเพิ่มขึ้น ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเหมาะสม TACC ที่ 7.60 บาท ล่าสุด TACC ประกาศจ่ายปันผล 0.19 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Yield 4% และจะขึ้น XD วันที่ 7 พฤษภาคม2567 และจะจ่ายปันผล วันที่ 20 พฤษภาคม 2567

ด้านนายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACCกล่าวก่อนหน้านี้ว่า แผนการดำเนินงานในปี 2567 ถือเป็น “ปีแห่งการสร้างฐานของ New Growth จากนวัตกรรมสินค้า Health and Wellness” ต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีความแข็งแกร่ง ผ่านความร่วมมือพันธมิตรควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน และมีแผนออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีนวัตกรรมด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี (Health and Wellness) สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

** ดันผลงานตามเป้า

ทั้งนี้ TACC ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าร่วมกับ 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner ไม่ว่าเป็นเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ในมุม All Cafe ทั้งร้าน 7-Eleven ในประเทศไทย ร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา และ ในสปป.ลาว ที่คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

นางสาววิลาสินี  กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ฝ่ายวิเคราะห์ชอบหุ้น CEYE หรือ บริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) เพราะ หลังจากการเข้าลงทุนบริษัท ไวท์ ไลท์ สตูดิโอ จำกัด อีกทั้งการควบรวมกิจการ (M&A) กิจการ Post Production ภาพเคลื่อนไหว และธุรกิจตัวแทนโฆษณา (Advertising Agency) บริษัท ซีอาล๊อต บูทีค โพสท์โปรดักชั่น จํากัด (ZEALOTS) และ บริษัท เออเบิร์น มีเดีย ครีเอชั่น จํากัด (UMC) จะช่วยให้บริษัทมีบริการที่ครบวงจร ซึ่งรวมไปถึงต้นน้ำจะช่วยอํานวยความสะดวกต่อลูกค้าและส่งผลต่อต้นทุนในการผลิตสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ของลูกค้าที่ปรับตัวลดลง

และคาดปี 2567 ผลประกอบการ จะเติบโตดีกว่าปี 2566 ฝ่ายวิเคราะห์อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการรายได้ กำไรและราคาเหมาะสมปี 2567 เนื่องจากผลประกอบการปี 2566 ต่ำกว่าคาด

อนึ่งปี 2566 CEYE มีรายได้อยู่ที่ 471.57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 64.93 ล้านบาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=