#BDMS #ทันหุ้น – บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS จัดประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหารให้ข้อมูลเป้าหมายการเติบโตในช่วง 3 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% โบรกเกอร์มีมุมมองเชิงบวกแนะนำ “ซื้อ”
บล.เอเซียพลัส : แรงส่งการเติบโตในระยะถัดไปยังไม่แผ่ว
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อการประชุมนักวิเคราะห์ในงวด 4Q66 โดยรายได้ศูนย์แห่งความเป็นเลิศยังเติบโตได้ดีจากผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาโรคยากซับซ้อนทั้งชาวไทยและต่างชาติ แม้แนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q67 จะปรับตัวลง QoQ จากผลกระทบของรอมฎอน แต่ยังคงเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ผลประกอบการในปี 2567 ยังขยายตัวได้ตามการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติ การขยายฐานลูกค้าประกันและประกันสังคม รวมทั้งการเพิ่มจำนวนเตียงและโรงพยาบาลแห่งใหม่ ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 31.50 บาท อิงวิธี DCF ให้น้ำหนักการลงทุน OUTPERFORM
บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ : ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10-12% YoY
ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10-12% YoY และตั้งเป้า EBITDA Margin ปีนี้ที่ 24-25% ผู้บริหารตั้งรายได้ปี 67-69 เติบโตเฉลี่ยปีละ 10% EBITDA Margin จะขึ้นไปอยู่ที่ 25% ในปี 69
คาดกำไรปีนี้จะเติบโต 13.8% และจะเติบโตต่อเนื่องจากราว 12% ในปีหน้า
มูลค่าพื้นฐานปีนี้อิงวิธี DCF อยู่ที่ 36 บาท มี upside 27.4% ขณะที่ราคาหุ้นมีโอกาสอ่อนตัวลงมาเนื่องจากเป็นวันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย เงินปันผล 2H66 ที่ 0.35 บาท เป็นโอกาสให้ ทยอยซื้อ
บล.กสิกรไทย : แนวโน้มเชิงบวกยังมีต่อเนื่อง
บล.กสิกรไทย คงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 33.10 บาท เพิ่มจากเดิมที่ 32.60 บาท จากสมมติฐานรายได้และอัตรากำไรที่สูงขึ้น
ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 2567 จะเติบโต 10-12% โดยมีอัตรากำไร EBITDA ที่ 24-25% เพิ่มขึ้นจากตัวเลขจริงในปี 2566 โดยการเติบโตของรายได้รวมอยู่ที่ 11 YoY ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567
แนวโน้มรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องไปในปี 2567 โรงพยาบาลแห่งใหม่ที่เปิดหลังปี 2566 ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลเดิม ซึ่งน่าจะทำให้มีการจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าการเปิด รพ ที่ตั้งอยู่เดี่ยว
บล.กรุงศรี : ไกด์รายได้โตปานกลางในสามปีข้างหน้า
BDMS ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10-12%และเติบโต 10% ต่อปีใน FY24-FY26 โดย EBITDA Margin คงที่ที่ 24-25% ซึ่งจะมีอัพไซด์จากประมาณการของบล.กรุงศรี บริษัทแผนเพิ่มรายจากการรักษาโรคซับซ้อน การขยายเตียง และเพิ่มจำนวนผู้ป่วยต่างชาติ BDMS ซื้อขายที่ 28.4X PER ของ FY24, หรือ -1SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต ซึ่งตรงข้ามกับกำไรที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้น บล.กรุงศรีแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 37.00 บาท
บล.หยวนต้า : แนวโน้มปี67ยังสดใส บริษัทปรับเป้ารายได้ขึ้น
สาระสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 5 มี.ค.มีรายละเอียดดังนี้
บริษัทให้ข้อมูลแนวโน้มผลประกอบการ 1Q67 คาดยังเติบโตดี YoY โดยตัวเลข 2 เดือนแรก (ม.ค.-กพ.) รายได้จากการให้บริการเติบโต 11%YoY ซึ่งเป็นการเติบโตจากทั้งคนไข้ในประเทศและต่างประเทศ โดยลูกค้าในประเทศยังได้แรงหนุนจากการระบาดที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อน อาทิ โรคทางเดินหายใจ โรคไข้หวัดใหญ่ ขณะที่กลุ่มลูกค้าต่างประเทศยังคงรับผลบวกจากการเปิดประเทศ โดยประเทศที่เติบโตดี ได้แก่ ประเทศ จีน ตะวันออกกลาง และ ยุโรป โดยส่งเสริมให้ใช้บริการ Center of Excellence (CoE) มากขึ้น
แนวโน้มปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 11-12% ขณะที่บริษัทมีการปรับเป้าหมายการเติบโต 3ปีข้างหน้า (ปี 2567-2569) เติบโตเฉลี่ย CAGR 10% จากเดิมที่ 6-8% โดยกลยุทธ์ในการเติบโตจาก 1) การเติบโตของ Center of Excellence (CoE ซึ่งช่วยเพิ่ม intensity หรือรายได้ต่อหัวที่สูงขึ้น 2)ตั้งเป้าจำนวนผู้ประกันตนของประกันสังคม ที่ 1 ล้านราย จากสิ้นปี 2566 ที่ 8 แสนราย 3) การขยายฐานลูกค้าประกันสุขภาพมากขึ้น โดยเจาะกลุ่มลูกค้าบริษัท 4) การเติบโตจากลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะจาก จีน ตะวันออกกลาง CLMV และยุโรป และการขยายฐานลูกค้าใหม่เช่น ซาอุดิอาระเบีย และบังคลาเทศ
บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนเตียงจดทะเบียน จากปัจจุบันที่ 8,400เตียงเป็น 9,000 เตียง และ Occupancy rate ที่ระดับ 75% บริษัทตั้งเป้า EBITDA Margin เพิ่มเป็น 25% จากปัจจุบันที่เฉลี่ย 24% จากนโยบายควบคุมต้นทุน และรายได้จาก COE ที่มีอัตรากำไรสูงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
บล.หยวนต้ามีมุมมองเป็นบวกจากการประชุม โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้เฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ย 10%สูงกว่าประมาณการของเราที่คาดเติบโตเฉลี่ย 7% ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าของบริษัทจะมี Upside risk ในการปรับเพิ่มประมาณการ เบื้องต้นเรายังคงประมาณการคงเดิมก่อน เนื่องจากรวมความเสี่ยงจากปัจจัยมหภาค การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สำหรับปี 2567
เราประเมินกำไรปกติเติบโต 6% YoY เป็น 15,262 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) คาดจำนวนคนไข้ทั้งไทยและต่างชาติยังเติบโตต่อเนื่องจาก Pent-up Demand และผลบวกจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วยหนุนจำนวนผู้ป่วยต่างชาติ และBDMS มีแผนขยายฐานลูกค้าซาอุดิอาระเบีย และบังคลาเทศ มากขึ้น 2)การเติบโตของศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ Center of Excellence (CoE) เจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้และอัตรากำไรที่ดีขึ้นจากการรักษาโรคซับซ้อน
คงคำแนะนำ "ซื้อ"เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2567 ที่คาดเติบโตดีต่อเนื่อง ผลบวกจากการเปิดประเทศ และแผนในการขยายธุรกิจต่อเนื่อง เราคงมูลค่าพื้นฐานปี 2567 ที่ 35.30 บาท อิงวิธี DCF สมมติฐาน LT-Growth 2.5% และ WACC ที่ 6.9% LT-Growth 2.5%
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม