PRM ซื้อหุ้นคืน หนุนระยะสั้น บล.กสิกรฯมองบวกให้เป้า 8.06 บ.

#PRM #ทันหุ้น - บล.กสิกรไทยมองในเชิงบวก กรณี PRM ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน (หุ้นซื้อคืน) มูลค่าไม่เกิน 800 ลบ. และไม่เกิน 100 ล้านหุ้น คาดกำไรปกติปี 2566 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.8 พันลบ. ขณะที่กำไรปกติช่วง 9 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 1.4 พันลบ. คิดเป็น 78% ของประมาณการทั้งปี 2566 ของบล.กสิกรไทย

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 8.06 บาท คาดโครงการซื้อหุ้นคืนจะช่วยหนุนราคาหุ้นระยะสั้น

Investment Highlights

ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน PRM ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน (ซื้อหุ้นคืน) มูลค่าไม่เกิน 800 ลบ. และจำนวนหุ้นไม่เกิน 100 ล้านหุ้น หรือประมาณ 4% ของจำนวนหุ้นของบริษัทที่ชำระแล้วทั้งหมด ระยะเวลาของโครงการซื้อหุ้นคืนจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2566 ไปจนถึงวันที่ 27 มิ.ย.2567 (PRM จะต้องดำเนินการซื้อหุ้นคืนให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน)

วัตถุประสงค์ของโครงการซื้อหุ้นคืน ข้อมูลจากการแจ้งข้อมูลผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ELCID) ของ PRM ระบุถึงเหตุผลของโครงการซื้อหุ้นคืน ซึ่งได้แก่ 1) เพื่อนำสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทฯ มาใช่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดของ 2) เพื่อเพิ่ม ROE และ EPS 3) เพื่อแสดงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของ PRM และ 4) เพื่อสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริหารที่มีต่อบริษัทฯ

ผลกระทบต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น บล.กสิกรไทยคาดว่าสภาพคล่องและมูลค่าตามบัญชีของ PRM จะลดลงหลังจากโครงการซื้อหุ้นคืน หากอิงตามงบการเงินไตรมาส 3/2566 PRM มีเงินสดคงเหลือประมาณ 3.5 พันลบ. ขณะที่รายงานหนี้สินระยะสั้น ซึ่งรวมถึงสัดส่วนหนี้สินระยะยาวล่าสุดและหนี้สินตามสัญญาเช่าส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจำนวน 2 พันลบ. ในขณะเดียวกันบล.กสิกรไทยยังคาดว่า PRM จะได้รับกระแสเงินสดเพิ่มเติมจากการขายเรือขนส่งและจัดเก็บ (FSU) ลำหนึ่งในไตรมาส 4/2566ในแง่ของผู้ถือหุ้น เราคาดว่า ROE และ EPS ของ PRM จะเพิ่มขึ้นหลังจากโครงการซื้อหุ้นคืน และ DPS ที่สูงขึ้นอีกด้วย เนื่องจากหุ้นที่ซื้อคืนมีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล

มูลค่าที่น่าสนใจด้วยกำไรปกติที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2566 บล.กสิกรไทยคาดว่ากำไรปกติปี 2566จะอยู่ที่ 1.8 พันลบ. ซึ่งจะเป็นสถิติสูงสุดใหม่ตั้งแต่บริษัทฯ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อปี 2560ทั้งนี้กำไรปก9bช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 1.4 พันลบ. คิดเป็น 78% ของประมาณการทั้งปีของเราแล้ว โดย ณ ปัจจุบัน หุ้นซื้อขายด้วย PER ปี 2567 ที่ 6.4 เท่า หรือเท่ากับ 2SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ล่วงหน้า 12 เดือนย้อนหลัง 5 ปี ของตลาด ในแง่ของ PBV หุ้นขณะนี้ซื้อขายด้วย PBV ปี 2567 ที่ 1 เท่า หรือเท่ากับ 1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ล่วงหน้า 12 เดือน ย้อนหลัง 5 ปีของตลาด

Valuation and Recommendation

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายเดิมที่ 8.06 บาท คาดว่าโครงการซื้อหุ้นคืนจะช่วยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้นได้ เนื่องจากงบประมาณในการซื้อหุ้นคืนทั้งหมด 800 ลบ. แสดงถึงราคาซื้อคืนสูงสุดที่ 8 บาทต่อหุ้น เทียบกับราคาหุ้นปัจจุบันที่ 5.15 บาท หากอิงตามประมาณของบล.กสิกรไทย หุ้นขณะนี้ซื้อขายด้วย PER ปี 2567-68 ที่ 6.4 เท่า และ 5.6 เท่า ตามลำดับ

บล.กสิกรไทยคำนวณราคาเป้าหมายกลางปี 2567 ที่ 8.06 บาท อิงด้วย PER ล่วงหน้า ที่ 9.3 เท่า หรือเท่ากับ 1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ล่วงหน้า 12 เดือนของตลาด หากอิงตามประมาณการของเรา หุ้นขณะนี้ซื้อขายด้วย PER ปี 2566 ที่ 6.3 เท่า หรือประมาณ 2SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PERล่วงหน้า 12 เดือน ย้อนหลัง 5 ปีของตลาด

...

อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง : บริษัทซื้อหุ้นคืน กำไร-ขาดทุน ลงบัญชีอย่างไร? https://thunhoon.com/article/285199