#LALIN #ทันหุ้น – LALIN ปี 2567 มองภาพอสังหาเริ่มฟื้น อัตราดอกเบี้ยเริ่มนิ่ง หนุนให้คนหันซื้อที่อยู่อาศัย เดือนธันวาคม 2566 เตรียมเปิดโครงการทาวน์โฮมใหม่ส่งท้ายปี มูลค่า 600 ล้านบาท ทั้งปีเปิดโครงการเข้าเป้า 12 โครงการ มูลค่าแตะ 9,000 ล้านบาท ส่วนผลงานปีนี้คาดต่ำกว่าเป้ามองกำลังซื้อชะลอ หนี้ครัวเรือนกดดันอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร 35%

นายเสรี  สินธุอัสว์  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN เปิดเผยภาพรวมอสังหาในปี 2567 บริษัทคาดว่าเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น จากอัตราดอกเบี้ยที่ปัจจุบันเริ่มนิ่ง ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น

ขณะที่ภาพรวมการพัฒนาโครงการในปีนี้ ตั้งเเต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 11 เดือนแรกบริษัทเปิดโครงการแล้วทั้งหมด 11 โครงการ มูลค่า 8,350 ล้านบาท แบ่งออกเป็น โครงการทาวน์โฮม 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,940 ล้านบาท ที่เหลือเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแนวคิดใหม่ จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 3,410 ล้านบาท

*ธ.ค. เปิด 1 โครงการใหม่

โดยในช่วงเดือนธันวาคม 2566 บริษัทมีแบบเปิดโครงการทาวน์โฮม มูลค่าราว 600 ล้านบาท เพิ่มอีก 1 โครงการ รวมทั้งสิ้น 12 โครงการ ทำให้มูลค่าการเปิดโครงการใหม่ในปี 2566 เพิ่มขึ้นไปที่ราว 9,000 ล้านบาท

ขณะที่การพัฒนาโครงการในปี 2565 บริษัทได้เปิดโครงการใหม่จำนวน 12 โครงการ มูลค่า 8,570 ล้านบาท เท่ากับปีนี้ทั้งหมด แบ่งเป็นโครงการในกรุงเทพฯ จำนวน 11 โครงการ และโครงการในต่างจังหวัด 1 โครงการ ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2566 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ณ ราว 1,200 ล้านบาท โดยจะสามารถรับรู้รายได้ปีนี้ ไปถึงปี 2567

*9 เดือนรายได้ 3,620.5 ล.

อย่างไรก็ดีบริษัทคาดว่าการเติบโตรวมปี 2566 ไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้จากต้นปี เพราะในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเน้นขายกลุ่มเรียลดีมานด์ รายได้ปานกลาง และเป็นกลุ่มที่เริ่มทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เนื่องจาก การเงินยังไม่มีความมั่นคง ปัจจุบันมีหนี้ภาคครัวเรือนในระดับสูง ทำให้ลูกค้าบางส่วนไม่ผ่านการพิจารณาของสินเชื่อจากธนาคาร ด้านอัตราปฏิเสธสินเชื่อ ปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูงถึง 35%

ทำให้ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มียอดขายรับรู้รายได้ 3,620.5 ล้านบาท ลดลง 23.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 4,723.2 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรในช่วง 9 เดือนเเรก ปรับลดลง 34.7% ถึงอย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีงบการเงินที่แข็งแกร่ง เเละในปีนี้ทางบริษัทได้ออกหุนกู้ เพื่อล็อกอัตราดอกเบี้ยเอาไว้บ้างแล้ว

*บริหารสินค้าคงคลัง

นอกจากนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2556 บริษัทมีจำนวนสินค้าคงคลัง (Inventerry) ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่ 12,811.1 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่10,720.8 ล้านบาท และยังมีที่ดินที่รอการพัฒนา อยู่ที่ 2,324.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 2,141 ล้านบาท ซึ่งหากคำนวณตามมาตรฐานการบันทึกทางบัญชี ที่ดินเปล่าหากยังไม่มีการพัฒนาที่ดินส่วนนี้ ก็จะย้ายไปอยู่ในกลุ่มสินค้าคงคลัง (Inventerry) ทำสินค้าคงคลังให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น

แต่หากคิดตามมูลค่าสินค้าคงคลังทั้งหมด สินค้าที่เป็นบ้านสำเร็จรูปพร้อมขายของบริษัทไม่ได้มีสัดส่วนที่มาก เนื่องจากบริษัทมีการควบคุมความเสี่ยงเป็นอย่างดี และเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบ โดยพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพื่อเป็นการทดแทนโครงการเดิมที่ขายหมดไป เป็นต้น

*เน้น Green Mindset

อย่างไรก็ดีเป้าหมายในการพัฒนาโครงการของ "ลลิล พร็อพเพอร์ตี้" ให้ความสำคัญในเรื่องการสร้าง Green Mindset ทั้งทางตรง และทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็น การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลดมลภาวะทางอากาศ หรือการเพิ่มพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ให้เกิดความร่มรื่น เพื่อช่วยเติมเต็มปริมาณออกซิเจนในโครงการให้มีอากาศที่บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น

โดยปัจจุบันบริษัทมุ่งเน้นการส่งเสริมให้บุคลากรในสาขา Green Job หรืองานที่มีส่วนช่วยในเรื่องการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเรื่องการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานในภาคส่วนแบบดั้งเดิม เช่น สายงานด้านการผลิตและด้านการก่อสร้าง หรือในภาคส่วนสีเขียวที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1