#TOG #ทันหุ้น – TOG ส่งซิกไตรมาส 4/2566 ยอดพุ่ง รับเข้าไฮซีซันธุรกิจ เดินหน้าร่วมงานจัดแสดงสินค้ากระแสตอบรับลูกค้าใหม่ทะลัก ขณะที่การปรับพอร์ตผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ายุโรปหนุนยอด มั่นใจยอดขายปี 2566 โตเข้าเป้าไม่น้อยกว่า 5-8% รักษาฐานมาร์จิ้นเฉลี่ย 20-25%

นายธรณ์  ประจักษ์ธรรม  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TOG เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2566 คาดว่ายอดขายจะมีการขยายตัวได้ดีกว่าทั้งเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ โดยบริษัทยังคงได้รับคำสั่งซื้อใหม่ๆ จากทั้งฐานลูกค้าเดิม และฐานลูกค้าใหม่เข้ามาเติมพอร์ตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเริ่มทยอยส่งมอบในช่วงที่เหลือของปีนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ จากการเดินทางไปร่วมจัดแสดงสินค้าในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เลนส์สายตาของบริษัทเป็นที่รู้จักกับลูกค้ามากขึ้น และได้รับความสนใจจากลูกค้ารายใหม่เข้ามาเพิ่ม ซึ่งมองว่าจะช่วยให้บริษัทสามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตของยอดขายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมถึงในอนาคตอีกด้วย

*ขยายฐานลูกค้าใหม่

ขณะที่ตลาดในกลุ่มยุโรปปัจจุบันสถานการณ์ทั่วไปยังไม่มีอะไรที่น่ากังวลนัก ส่งผลให้การเดินหน้าขยายตลาดและฐานลูกค้าใหม่ๆ ของบริษัทยังคงดำเนินได้ตามแผนที่วางไว้ และได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาเติมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมยอดขายในช่วงไตรมาส 4/2566 เริ่มกลับมามีทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งแผนในการปรับกลยุทธ์การขายใหม่โดยปรับพอร์ตผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการยังช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทได้ค่อนข้างดีอยู่ในปัจจุบัน

ซึ่งจากปัจจัยที่กล่าวมาทำให้บริษัทยังคงมีความมั่นใจว่าการเติบโตของรายได้รวมในปี 2566 จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 5-8% จากปี 2565 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 2,960.58 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 403.62 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมีรายได้รวมแล้วที่ระดับ 1,388.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 229.62 ล้านบาท แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2/2566 ยอดขายอาจหย่อนไปบ้างเนื่องจากเป็นโลว์ซีซัน แต่ในช่วงปลายไตรมาส 3/2566 ยอดขายเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว

*อัพแกร่งกำลังผลิต

พร้อมกันนี้ บริษัทยังออกผลิตใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาส 3/2566 จะเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ "1.60Fortis" ที่เป็นสินค้ามูลค่าเพิ่ม (Value-Added Lenses) ให้อัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงกว่า 30% สำหรับสัดส่วนยอดขายแบ่งออกเป็นกลุ่มสินค้า Rx Lens 40%, Value-Added 27%, Standard 24% และสินค้าอื่นๆ 9% โดยมีสัดส่วนการขายหลักจากกลุ่มประเทศนิวซีแลนด์-ออสเตรเลีย 29%, ยุโรป 26%, เอเชีย-แอฟริกา 24% และอเมริกาตอนเหนือ 21% เป็นต้น

สำหรับความคืบหน้าในการลงทุนโรงงานผลิตเลนส์สายตาสั่งตัดพิเศษเฉพาะบุคคล (Rx Lens) ในเฟสที่ 1 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบสายการผลิต คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 4/2566 และจะเดินเครื่องอย่างเต็มประสิทธิภาพและพร้อมจำหน่ายได้ในช่วงไตรมาส 1/2567 เป็นต้นไป ซึ่งจะเข้ามาช่วยเพิ่มอัตรากำลังการผลิต Rx Lens ได้อีกกว่า 30% จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิต 1 หมื่นเลนส์ต่อวัน

ส่วนของการใช้อัตราการกำลังการผลิตปัจจุบันในส่วนของการผลิตเลนส์แคสติ้ง อยู่ที่ระดับกว่า 95% และเลนส์สายตาตัดพิเศษเฉพาะบุคคล (Rx Lens) อยู่ที่ระดับประมาณ 90-92% (ไม่รวมกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่งมีการลงทุนไป) โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทยังคงแผนการเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิตให้สูงขึ้น เพื่อให้ประหยัดต่อขนาดและลดต้นทุนในการผลิตลง และเพื่อคงความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20-25%

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1