นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) หรือ K ผู้ประกอบธุรกิจออกแบบและตกแต่งงานแบบครบวงจร 4 ประเภท 1.ธุรกิจงานตกแต่งภายใน (Interiors) 2.ธุรกิจงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (Exhibitions) 3.ธุรกิจการตลาดทางเลือก (Alternative Marketing) และ 4.ธุรกิจงานพิพิธภัณฑ์และสวนสนุกแนวคิด (Museums & Thematic Park) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2566 ที่ 850ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีรายได้เข้ามาแล้ว 320.5 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีในมือ (Backlog) อยู่ที่ 377.6 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตามอีกมูลค่า 219.1 ล้านบาท โดยหวังว่าจะได้รับงานเข้ามาไม่ต่ำกว่า 70% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานรีเทล โดยสัดส่วนรายได้จาก Backlog ของธุรกิจงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (Exhibitions) มีสัดส่วนที่ดีขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ไปแล้ว และไตรมาสที่ 4/2566 คาดว่าจะคึกคักมากขึ้นตามซีซันของธุรกิจ
นอกจากนี้บริษัทมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ที่จะสามารถสร้างรายได้ประจำให้แก่บริษัทได้ โดยมีการพิจารณาตามความเหมาะสมของการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยหากมีความชัดเจนบริษัทจะแจ้งให้ทราบในครั้งถัดไป
ทางด้านกลยุทธ์ของบริษัทจะมุ่งขยายงานในธุรกิจงานแสดงสินค้าและกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น เนื่องจากสภาวการณ์ตลาดที่ กลับมาเติบโต เช่นเดียวกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19ส่วนงานธุรกิจตกแต่งภายในมุ่งเป้ารับงานรีเทลต่างๆ และงานสำนักงาน ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็กในกลุ่มลูกค้าที่ยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นลักษณะงานที่บริษัทมีความชำนาญ สามารถทำอัตรากำไรได้ดี และควบคุมความเสี่ยงด้านการบริหารจัดการได้ เพื่อส่งมอบงานคุณภาพให้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
สำหรับก่อนหน้านี้บริษัทได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนK-W2 เพื่อรองรับการเติบโตในอีก 1 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าเม็ดเงินจากการระดมทุนภายหลังผู้ถือหุ้นมีการแปลงสภาพหมดตามสิทธิประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทในการนำเม็ดเงินดังกล่าวไปใช้เป็นเงินทุนเพื่อหมุนเวียนสำหรับการต่อยอดและรองรับการขยายโครงการต่าง ๆ ในอนาคต ทั้งนี้หากมีโครงการใหม่ๆ เข้ามาในช่วงกลางปีหรือปลายปีนี้ บริษัทก็สามารถนำเม็ดเงินดังกล่าวมาต่อยอดการทำงานได้อย่างลงตัว โดย K-W2 จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนแปลงสภาพครึ่งแรกได้ในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 นี้
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2566 มีรายได้จากการให้บริการ 127.87 ล้านบาท ลดลง 43% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากสายธุรกิจงานตกแต่งภายในรับงาน ลดลงและ งานในสายธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมทางการตลาดลดลงจากความไม่ชัดเจนทางการเมือง
เเละบริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานก่อนภาษี 6.74 ล้านบาท และเมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษี 1.48 ล้านบาท (ซึ่งเกิดจากการปรับปรุงรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี) ทำให้ ขาดทุนสุทธิ 8.22 ล้านบาท (เป็นของเฉพาะกิจการ 8.10 ล้านบาท ส่วนบริษัทย่อย 0.12 ล้านบาท) บริษัทย่อยทั้งเมียนมา และกัมพูชายังคงหยุดการดำเนินงาน เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ ยังไม่แน่นอนทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ โดยคณะผู้บริหารมีมติให้ ปิดบริษัทย่อยทั้ง 2 ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการจดเลิกกิจการ
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม