นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรพร้อมที่ดินเพื่อขาย เปิดเผยว่า แผนธุรกิจช่วงที่เหลือปีนี้ บริษัทจะเปิดโครงการตั้งแต่ไตรมาส 4/2566 ไปจนถึงไตรมาส 1/2567 มูลค่ารวมราว 1.3-1.5 พันล้านบาท โดยมีมูลค่าโครงการขนาดใหญ่อยู่ที่ 800-900 ล้านบาท และโครงการขนาดเล็กมูลค่าโครงการอยู่ที่ 500-600 ล้านบาท โดยโครงการที่จะเปิดใหม่มีทั้งโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง และโครงการร่วมกับพาร์ตเนอร์
ล่าสุดคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) อนุมัติการเข้าร่วมลงทุนกับบริษัท โลฟิส (ไทยแลนด์) จำกัด โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ประเภทบ้านจัดสรรเพื่อขาย โดยบริษัทเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท ธนาสิริ โลฟิส (ประเทศไทย) จำกัด 204,000 หุ้น หรือคิดเป็น 51% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท ในราคาหุ้นละ 100 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20,400,000 บาท
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 0.6 ล้านบาท ลดลง 13 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยเหตุผลที่ลดลงเป็นรายได้จากการโอนบ้านลดลงในโครงการ ธนาฮาบิแทต กรุ๊ฟ ปิ่นเกล้า-สิรินธร ซึ่งเป็นโครงการที่มีกำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ค่อนข้างสูง แต่ใกล้ขายปิดจบโครงการแล้ว และเร่งการขายบ้านในโครงการปัจจุบันซึ่งมีมาร์จิ้นค่อนข้างต่ำ ส่งผลให้ 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 39.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ส่วนรายได้ 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้แล้วที่ 339.15 ล้านบาท
ขณะที่ทิศทางครึ่งปีหลัง 2566 คาดภาพธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะบริษัทเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ทำให้โครงการเปิดใหม่ ยังไม่สามารถขายหรือมียอดพรีเซลเข้ามา แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลัง 2566 จะมียอดขายจากโครงการใหม่เพิ่มเติม
ขณะเดียวกันทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นอาจกดดันต่อกำลังซื้อผู้บริโภค และการปล่อยสินเชื่อของสถาบันทางการเงิน เพราะจากยอดเข้าชมโครงการที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 30% และยอดปฏิเสธสินเชื่อยังคงชะลอตัวในระดับสูง แต่หากจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้สำเร็จ เชื่อว่ารัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจ และหันมาโฟกัสที่อยู่อาศัย พร้อมกับออกนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์
นายสุทธิรักษ์ กล่าวต่อว่า บริษัทมียอดโอนกรรมสิทธิ์ หรือ Backlog 245 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้ในไตรมาส 3/2565 ประมาณ 65% ดังนั้นบริษัทยังมองภาพธุรกิจไตรมาส 3/2566 จะดีกว่าไตรมาส 2 ที่ผ่านมา จากการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ และเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติม
“พาร์ตเนอร์ที่เข้ามาใหม่คาดจะช่วยหนุนธุรกิจพัฒนาโครงการแนวราบให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะเขาก็ร่วมทุนกับบริษัทใหญ่ และมีโครงการจำนวนมาก ส่วนพาร์ตเนอร์เดิมเรายังเดินหน้าพัฒนาโปรเจ็กต์ร่วมกัน โดยที่ผ่านมามีโครงการที่เปิดร่วมกัน 2-3 โครงการ มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท” นายสุทธิรักษ์ กล่าว
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม