#CCP #ทันหุ้น - CCP แตกไลน์ธุรกิจโลจิสติกส์ เตรียมเปิดให้บริการคลังสินค้าในเขตปลอดอากร (Free Zone) ไตรมาส 4/2566 นี้ พร้อมขยายตลาดคอนกรีตสู่โซนภาคอีสาน มั่นใจมาร์จิ้นดีกว่า คาดรับอานิสงส์จีนเปิดประเทศหนุนการลงทุนเพิ่ม ส่งผลบวกต่อบริษัท ประเมินเป้าการเติบโตรายได้ปี 2566 ที่ 5% เน้นบริหารต้นทุนเพิ่มอัตรากำไร
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปที่เกี่ยวข้องกับงานสาธารณูปโภคครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มโลจิสติกส์ โดย CCP ได้จัดตั้ง บริษัท ชาลี ท็อป โลจิสติกส์ โซลูชั่น จำกัด มูลค่าลงทุนรวม 400 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น แบ่งเป็น CCP ถือหุ้น 60% และบริษัท ปลาวาฬ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (WHALE LOGISTICS GROUP) ถือหุ้น 40%
เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการคลังสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัยในเขตปลอดอากร (Free Zone) จากการมองเห็นโอกาสการเติบโตของแนวโน้มความต้องการใช้คลังสินค้าในเขตปลอดภาษีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพยังมีไม่เพียงพอ ประกอบกับการผลักดันของภาครัฐในโซน EEC ที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ผนวกกับปัจจัยเสริมของการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศอาเซียนมากขึ้นซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสที่ 4/2566
การลงทุนคลังสินค้าในครั้งนี้จะแบ่งออกเป็น 2 เฟส ใกล้ที่ดินนิคมแหลมฉบัง ได้แก่ เฟส 1 มีพื้นที่คลังสินค้า 2,800 ตารางเมตร และเฟส 2 พื้นที่ 28,800 ตารางเมตร
จีนเปิดปท.หนุนลงทุน
บริษัทเตรียมเปิดแพลนต์ปูนใหม่ ที่จังหวัดหนองคาย ภายในไตรมาสที่ 1/2566 นี้ ซึ่งเป็นการขยายธุรกิจไปสู่ภาคอีสาน คาดว่าจะทำให้อัตรากำไรดีขึ้นเนื่องจากลูกค้าในโซนดังกล่าว การแข่งขันไม่สูงมากนัก จากเดิมที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญและเป็นเจ้าตลาดในธุรกิจแพลนต์ปูนพื้นที่จังหวัดชลบุรี รวมถึงธุรกิจคอนกรีต Ready-Mix ในเขตจังหวัดชลบุรี ระยอง และปราจีนบุรี
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมบริษัทมองว่าปี 2566 หลังจากที่ประเทศจีน มีนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบก็จะส่งผลดีต่อการลงทุน ซึ่งในกลุ่มทุนประเทศจีนที่ในช่วงที่ผ่านมาได้ชะลอการลงทุนไว้กลับมาลงทุนเพิ่มเติม โดยเฉพาะงานโครงสร้างพื้นฐานโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งคาดว่าปีนี้จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
และยังมีงานของโครงการเมกะโปรเจ็กต์ทั่วประเทศ โครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการก่อสร้างตามปกติ อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการสนามบิน โครงการท่าเรือ โครงการมอเตอร์เวย์ งานถนน เป็นต้น
ยอดขายโตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามบริษัทมองแนวโน้มยอดขายปี 2566 คาดว่าจะเติบโตได้ประมาณ 5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งยังต้องรอติดตามสถานการณ์ ว่าจะมีปัจจัยอะไรใหม่ๆ ให้ต้องติดตามบ้าง แต่โดยรวมมองว่าปี 2566 นี้จะมีปริมาณงานออกมาเป็นจำนวนมากทั้งงานภาครัฐกับภาคเอกชน นอกจากนี้บริษัทยังเน้นการบริหารจัดการต้นทุนเพื่อเพิ่มอัตรากำไรเนื่องจากในปี 2565 ที่ผ่านมาบริษัทและในหลายธุรกิจได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อทำให้การทำกำไรโดยรวมไม่ดีนัก
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอส่งมอบ (Backlog) อยู่ประมาณ 1,600-1,800 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2566 จำนวน 60%
สำหรับกลยุทธ์สำคัญของบริษัทยังมุ่งเน้นให้เข้ากับสถานการณ์อยู่เสมอ พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ Precast คอนกรีตสำเร็จรูป เพื่อช่วยแก้ปัญหาขาดแรงงาน ลดต้นทุน ทำให้งานเสร็จรวดเร็ว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการและรองรับงานก่อสร้างที่หลากหลาย พร้อมทั้งเร่งเดินหน้าประมูลงานจากทั่วประเทศเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม