#SPCG #ทันหุ้น - SPCG เชื่อผลงานครึ่งปีหลัง 2565 กำลังการผลิตโซลาร์ฟาร์มเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก พยายามผลักดันเป้าการผลิตโซลาร์ฟาร์มกว่า 388 ล้านหน่วย แม้ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ และเดินหน้าลงทุนโครงการใหม่ใน EEC กำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 500 เมกะวัตต์
นายพิพัฒน์ วิริยธรานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2565 บริษัทจะพยายามผลักดันรายได้ปีนี้ให้เติบโตไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 4,700 ล้านบาท และเป้าการผลิตโซลาร์ฟาร์มกว่า 388 ล้านหน่วย แต่เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) อาจทำให้รายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
โดยการผลิตในครึ่งปีแรกต่ำกว่าเป้าหมายอยู่ที่ 190.2 ล้านหน่วย จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 36 โซลาร์ฟาร์ม ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 9 ล้านหน่วย หรือคิดเป็น 5%
ส่วนผลประกอบการครึ่งปีแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทมีรายได้รวมจากการขายและให้บริการ จำนวน 2,019.1 ล้านบาท ลดลง 14% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ จำนวน 1,254.1 ล้านบาท ลดลง 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 1,483.6 ล้านบาท
ครึ่งหลังฤดูกาลผลิต
อย่างไรก็ดีในช่วงที่เหลือของปีนี้ เป็นช่วงที่เข้าสู่ปลายฝนและเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทสามารถผลิตโซลาร์ฟาร์มได้ดีที่สุด จะช่วยให้บริษัทดำเนินงานดีกว่าครึ่งปีแรก ด้านธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป บริษัทยังได้รับความสนใจจากลูกค้าและทยอยติดตั้งต่อเนื่อง
"ช่วง 6 เดือนแรก ค่าพลังงานยังต่ำกว่าเป้าหมายราว 9 ล้านหน่าวย จากผลกระทบ Climate Change เป็นหลัก ทำให้ปริมาณการผลิตพลังงานน้อยกว่าเป้าหมายที่เราวางไว้ แต่เราหวังว่าอีก 4 เดือนที่เหลือเป็นช่วงที่ผลิตได้ดี จะทำให้เราบริหารได้ดีขึ้น ซึ่งเราจะพยายามให้พลาดเป้าต่ำที่สุด " นายพิพัฒน์กล่าว
การลงทุนใหม่
ด้านความคืบหน้าการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับใช้ในพื้นที่เมืองใหม่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กำลังการผลิตติดตั้งรวมไม่น้อยกว่า 500 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทได้ทำการซื้อที่ดินกว่า 2,080 ล้านบาท เพื่อดำเนิน 23 โครงการ ใน 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 316 เมกะวัตต์ โดยทำสัญญาซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการถมหน้าดินคืบหน้า 95%
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างดำเนินขอใบอนุญาตต่างๆ เพื่อก่อสร้างให้ทันในปีนี้ ซึ่งใช้เวลาติดตั้งแบบน็อกดาวน์ประมาณ 4-6 เดือน โดยหากเป็นตามแผนมีโอกาสรับรู้รายได้บางส่วนทันช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้งบลงทุนทั้งหมดในโครงการดังกล่าว บริษัทได้ขออนุมัติวงเงินจากบอร์ดทั้งสิ้นรวมประมาณ 12,500 ล้านบาท ซึ่งหากติดตั้งครบ 500 เมกะวัตต์ จะช่วยสนับสนุนรายได้ให้บริษัท ไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท
ญี่ปุ่น COD ปี 67
สำหรับ 2 โครงการใหญ่ที่ญี่ปุ่น ขณะนี้มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยโครงการ Ukujima Mega Solar Project ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 480 เมกะวัตต์ งบการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 178,758 ล้านเยน หรือประมาณ 60,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือหุ้น 17.92% หรือคิดเป็นเงินจำนวน 9,000 ล้านเยน หรือประมาณ 2,700 ล้านบาท บริษัทจะชำระเงินงวดที่เหลือภายในปี 2565 ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในปี 2567
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเดินตามเป้าหมายโดยได้ตั้งเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม