#NER #ทันหุ้น - ภาวะตลาดหุ้นไทยยังทรง ๆ ทรุด ๆ ความกังวลต่อปัจจัยเชิงลบ ความเชื่อมั่นนักลงทุนหดหาย ประกอบกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติยังมีออกมาต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดโดยรวมยังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ การแกว่งตัวของดัชนียังคงเล่นในกรอบแนวต้าน 1,580 จุดยังไม่สามารถตีฝ่ากลับขึ้นไปได้ การลงทุนยังต้องใช้ความระมัดระวัง พิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบด้าน อย่างไรก็ตาม ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ โดยเฉพาะในตลาดหุ้นแห่งนี้ครับ ลองพิจารณากันดู

จากข่าวราคาน้ำยางสดที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้ ก่อให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนยางพาราหรือไม่ ซึ่งข่าวที่ออกมาในข้อเท็จจริงแล้วน่าจะมีการนำเสนอข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไปพอสมควรทีเดียว จะว่าไปแล้วจากสถานการณ์ราคายางที่ปรับตัวผันผวนช่วงนี้ เป็นเฉพาะราคาน้ำยางสดเท่านั้น ส่วนยางแผ่นรมควันชั้น 3 กับยางแท่งยังทรงตัว

ทั้งนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่าราคาน้ำยางสดที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้นั้น คงต้องมองย้อนกลับไปช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ระบาดทั่วโลก ทำให้เกิดความต้องการถุงมือยางอย่างมาก ผู้ผลิตถุงมือยางมีการขยายและเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงมีการสต๊อกน้ำยางสดในช่วงดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากไปดูข้อมูลราคาน้ำยางสดย้อนหลังจะเห็นว่าราคาน้ำยางสดพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 อย่างมาก

ขณะที่ในปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายทั่วโลก ความต้องการใช้ถุงมือยางลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สต๊อกน้ำยางสดที่มีการเพิ่มกำลังการผลิตล้น คงเหลือในสต๊อกค่อนข้างมาก ย่อมเป็นแรงกดดันต่อราคาน้ำยางสดให้เกิดความผันผวนได้ในช่วงนี้

อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ปกตินั้น ราคาน้ำยางสดจะราคาไม่สูงกว่า ยางแผ่นรมควันอยู่แล้ว แต่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ราคาน้ำยางสดพุ่งสูงกว่าราคายางแผ่นรมควันด้วยซ้ำ ถ้าจะให้อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือ ราคาน้ำยางสดที่พุ่งขึ้นช่วงวิกฤตโควิด-19 นั้น เป็นภาวะที่ไม่ปกติ ขณะที่ในตอนนี้ ราคากำลังปรับเข้าสู่สมดุลที่ควรจะเป็นตามดีมานด์ และซัพพลายที่เกิดขึ้นจริง หรือเป็นไปตามกลไกตลาดนั่นเอง

อีกทั้งน้ำยางสดที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมถุงมือยาง ก็แตกต่างจากยางแผ่นรมควัน หรือยางก้อนถ้วย ซึ่งหลัก ๆ จะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมยางล้อ โดยในปัจจุบันจากวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่อนคลายลง ประกอบกับกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตสูง ส่งผลให้ยางแผ่นรมควัน หรือยางก้อนถ้วย ซึ่งยังมีความต้องการในตลาด ราคาไม่ได้ลดลงอย่างราคาน้ำยางสด ขณะที่ ราคายางแผ่นรมควันโดยเฉลี่ยในปีนี้อยู่ที่ 65-70 บาทต่อกก. สูงขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ประมาณ 50-60 บาทต่อกก.

ดังนั้น ในตอนนี้ที่ราคาน้ำยางสดกำลังปรับตัวให้สมดุลตามกลไกตลาด ซึ่งที่จริงก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อยู่แล้ว เพียงแต่ช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการใช้ถุงมือยางที่เพิ่มขึ้น ดันราคาน้ำยางสดปรับสูงขึ้นไปมากส่งผลให้กลไกตลาดบิดเบี้ยว ไม่สะท้อนราคาที่แท้จริง เพราะฉะนั้นราคาน้ำยางสดที่ปรับตัวลดลงจากช่วงภาวะวิกฤตโควิด-19 เป็นไปตามกลไกของตลาดที่แท้จริง ขณะที่ราคายางแผ่นรมควันยังมีราคาเฉลี่ยสูงกว่า ก็เป็นไปตามกลไกตลาดเช่นเดียวกัน

จากข้อมูลอีกด้านดังกล่าว อาจจะมองเป็นโอกาสในการลงทุนในตัวหุ้น NER ที่ราคาหุ้นนอกจากจะปรับตัวลดลงตามภาวะตลาด และถูกกดดันจากประเด็นข่าวราคาน้ำยางสดลดลงอีกด้วย ซึ่งด้วยปัจจัยพื้นฐานแล้วแทบจะเกี่ยวข้องกันน้อยมาก ประกอบกับราคาหุ้นที่ลดลง เปรียบเทียบแนวโน้มผลการดำเนินงานในอนาคตที่จะโชว์ออกมาให้เห็นอย่างที่นักวิเคราะห์คาดกัน ถือว่าราคายังถูกมากบนพีอีเพียง 5 เท่ากว่า ทั้งนี้ก็อยู่ที่มุมมองของนักลงทุนว่าจะมองเป็นโอกาสหรือไม่ โชคดีครับ

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1