#AMANAH #ทันหุ้น - ตลาดหุ้นต่างประเทศยัง Rebound ต่อแต่ยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่/ ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อ/ วันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ, /SET สัปดาห์นี้คาด 1600-1666จุด หุ้นแนะนำ AMANAH

วันจันทร์ ตลาดหุ้นสหรัฐหยุดเรื่องจากเป็นวัน Memorial Day, ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นในยุโรป เดือน พ.ค. ตลาดคาด 21.1 จุดทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า , ติดตามอัตราเงินเฟ้อของเยอรมัน เดือน พ.ค.

วันอังคาร ติดตามผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เดือนมิ.ย.,ติดตามยอดค้าปลีกของญี่ปุ่น เดือนเม.ย. ตลาดคาด 0.4%MoM, ติดตาม PMI ภาคการผลิตของจีนเดือน พ.ค. ตลาดคาด 48.0 จุด เพิ่มขึ้นจาก 47.4 จุดในเดือน เม.ย. ,ติดตามรายงานอัตราเงินเฟ้อของยุโรป ตลาดคาดอ7.5%YoY , ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ค. ตลาดคาด 104 จุดชะลอจาก 107.3 จุด

วันพุธ ติดตามCapital Spending ของญี่ปุ่น ไตรมาสที่ 1, ติดตาม Caixin Manufacturing PMI เดือน พ.ค. , ติดตามยอดค้าปลีกของเยอรมัน เดือน เม.ย. ตลาดคาด 0.3%MoM ,ติดตาม PMI ภาคการผลิตขอบยุโรป เดือน พ.ค. ตลาดคาดทรงตัว 54.4 จุด, ติดตามยอดการจ้างานภาคเอกชน ของสหรัฐ เดือน พ.ค.

วันพฤหัสบดี ติดตาม Beige Book ของสหรํฐ , ติดตาม OPEC Meeting, ติดตาม Factory Order เดือนเม.ย.

วันศุกร์ ตลาดหุ้นจีน ไทย อังกฤษ ปิดทำการ, ติดตาม Nonfarm payrolls ของสหรัฐ เดือน พ.ค. ตลาดคาด 3.5 แสนราย, ติดตามอัตราการว่างงานสหรัฐตลาดคาด 3.5% ลดลงจาก 3.6% ในเดือน เม.ย.

ต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐยัง Rebound ต่อเนื่องติดต่อกัน 4 วัน โดยเมื่อคืนดัชนี Dow +1.6%, S&P500 +1.99% (โดยกลุ่ม Consumer discretionary +4.8%, กลุ่ม IT (+2.5%), Communication Service (+2.1%), Materials(+1.8%), กลุ่มพลังงาน +1.1% และ กลุ่มConsumer staple(+1.1%) ,ดัชนีNASDAQ +2.68%  แรงหนุนมาจากหลายบริษัทในสหรัฐเริ่มกลับมาเผยทิศทางธุรกิจในเชิงบวก จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่บางบริษัทให้ทิศทางธุรกิจชะลอ โดยรวมประเมินเป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นเอเซียและหุ้นไทยในวันนี้ต่อ

ประเด็นที่ต้องติดตามที่มีผลต่อการลงทุนในช่วงนี้ โดยส่วนใหญ่ยังไม่ได้มีปัจจัยอะไรใหม่ ยังเป็นประเด็นเดิมอาทิ 1.)วันนี้ในต่างประเทศติดตามถ้อยแถลงของคณะกรรมการ Fed jame bullard หลังจากสัปดาห์ที่แล้วเริ่มพลิกกลับส่งสัญญาณสหรัฐจะลดดอกเบี้ยนโยบายในปี 2566 หรือ 2567 จากเดิมเป็นผู้ที่สัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยมาตลอด KS มองเป็นบวกต่อตลาดหุ้น ในประเทศวันนี้มี 2 ประเด็น คือ ติดตามรายงานตัวเลขยอดส่งออกและนำเข้าของไทยเดือน เม.ย. ตลาดคาด +14.6%YoY ชะลอจากเดือนก่อนหน้าที่ 19% และ +16.4% YoY และตัวเลขดุลการค้าของไทยเดือน เม.ย. เดือนก่อนหน้าที่เกินดุล 1,460 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และติดตามวันแรกของขายซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม 1.4 แสนลบ. ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นรับเหมาก่อสร้าง 

2)ติดตามวันที่ 30-31 พ.ค.การประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป(EU) เพื่อพิจารณามาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย คาดยังเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบโลกยังทรงตัวสูง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดที่ US$117.4/bbl (3% DoD) บวกต่อPTT PTTEP แต่ Sentiment จะลบต่อหุ้น Anti Commodity อาทิ (PTG EPG, SCGP, BGRIM,GULF, OR, AAV, BA) 

3.) สัปดาห์หน้า 30 พ.ค.-3 มิ.ย. ให้น้ำหนักรายงานตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจโดยฝั่งประเทศพัฒนาแล้ว หลักๆคือ ฝั่งสหรัฐ วันที่ 2 มิ.ย. ติดตาม Beige Book และวันศุกร์ที่ 3 มิ.ย. รายงาน Nonfarm payrolls ของสหรัฐ เดือน พ.ค. ตลาดคาด 3.5 แสนรายและอัตราการว่างงานสหรัฐตลาดคาด 3.5% ลดลงจาก 3.6% ในเดือน เม.ย.KS คาดตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง แม้ตลาดบ้านสหรัฐจะเริ่มชะลอแต่คาดจะยังหนุนให้ Fed เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ ฝั่งเอเซีย :  วันที่ 1 มิ.ย. จีนจะมีการคลายล๊อกดาวน์เซี่ยงไฮ้เป็น Sentiment บวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์

กลยุทธการลงทุน : KS ยังคงคำมุมมองเดิมคือ หากหุ้นที่นักลงทุนมีกำไร แนะนำเพียง Lock Profit กำไรในช่วงที่ SET Index แกว่งในกรอบ 1630-1666 จุด ยังประเมินตลาดหุ้นไทยไม่ใช่ขาขึ้นระยะยาว คาดแนวต้านจะติดบริเวณ 1666 จุด และประเมินมีโอกาส Sideway คำแนะนำลงทุนหุ้นในช่วงนี้ แนะนำ Selective เน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวก อาทิ 1.)กลุ่มเปิดเมือง อาทิ BEM, CENTEL,OR, PTG, D, AMATA 2.)กลุ่ม Defensive อาทิ BH, BDMS, ADVANC, AP 3.)กลุ่มโรงกลั่น แนะนำ SPRC ESSO 4.)กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากจีนเปิดประเทศ (CPF,CBG,EKH) 5.)กลุ่มที่ได้ปรโยชน์หากสหรัฐยกเลิกภาษี(tariff)KCE, JWD6.)กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้ม Bond Yield ปรับลง คือ กลุ่มโรงไฟฟ้า GUNKUL กลุ่มการเงิน (MTC,SAWAD, CHAYO,AMANAH) ส่วนกลุ่มที่ยังแนะนำชะลอการลงทุนระยะกลาง-ยาว คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มปิโตรเคมี จากกระแสความกังวลเศรษจกิจชะลอตัว

มุมมองตลาดหุ้น SET สัปดาห์นี้คาด 1600-1666จุด หุ้นแนะนำ AMANAH

Top pick : AMANAH (ราคาเป้าหมายที่ 6.4 บาท)1.)คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 จะเติบโต ผู้บริหารคาดว่ายอดสินเชื่อใหม่ไตรมาส 2/2565 จะเกินระดับในไตรมาส 1/2565 ที่ 450 ลบ. เนื่องจากยอดสินเชื่อใหม่จนถึงเดือน เม.ย. 2565 ดีกว่าเดือน ม.ค. 2565 ถึง 126 ลบ. ถึงแม้จะมีช่วงวันหยุดยาว โมเมนตัมคาดยังตีต่อเนื่องในเดือน พ.ค. 2565 2.) บริษัทจะเริ่มปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ในเดือน ก.ค. 2565 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันเนื่องจาก 1) ไม่ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ในสัญญาเช่าซื้อ ซึ่งจะทำให้ AMANAH สามารถเสนอสัญญาเงินกู้ที่น่าดึงดูดใจยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และ 2) กระบวนการอนุมัติสินเชื่อที่เร็วขึ้น 3.)ราคาหุ้นปรับฐานจากจุดสูงสุดของปีนี้ราว 18% และ Upside เมื่อเทียบกับราคาทางพื้นฐานเปิดกว้างราว 28%

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1