> mai > ALL

20 พฤษภาคม 2022 เวลา 10:00 น.

ALL ได้สามเด้งคาร์บอนเครดิต ครบวงจรเพิ่มเงินโรงไฟฟ้า

#ALL #ทันหุ้น – ALL เดินหน้าธุรกิจคาร์บอนเครดิตเต็มตัว เซ็นบริษัทระดับโลกด้านคาร์บอนเครดิต เปิดโมเดลรับซื้อคาร์บอนเครดิตจากกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด มีทีมให้บริการครบวงจร ขึ้นทะเบียนเพิ่มเงินทันที ชี้มีการบริหารให้ขายราคาสูง เชื่อมาร์จิ้นระดับ 60-70% พร้อมเดินหน้าแพลตฟอร์ม B2C แย้มมีโอกาสขายคาร์บอนเครดิตให้กองทุน รับเงินก้อนใหญ่ด้วย


นายธนากร  ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) จัดตั้งธุรกิจคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย กับพันธมิตรระดับโลก คือ บริษัท GSI เจ้าของแพลตฟอร์มจัดการธุรกิจซื้อขายคาร์บอนเครดิตด้วยบล็อกเชนรายแรกของโลก ที่มีมูลค่าการซื้อขายกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งนับเป็นบริษัทจดทะเบียนไทยรายแรกที่เข้าสู่ธุรกิจคาร์บอนเครดิต โดยจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ทั้งในประเทศไทยและในสิงคโปร์เพื่อครอบคลุมธุรกิจทั้งภายในประเทศไทยและในภูมิภาค


สำหรับบิสิเนสโมเดล ในการดำเนินธุรกิจคาร์บอนเครดิตทางบริษัทร่วมทุนจะดำเนินการเป็นตัวกลางในการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ในลักษณะทั้ง B2B คือติดต่อซื้อจากบริษัท และ B2C คือการสร้างแพลตฟอร์มให้ผู้บริโภคสามารถซื้อขายคาร์บอนเครดิตได้ผ่านบล็อกเชน ตลอดจนการนำคาร์บอนเครดิตที่ได้มาขายเข้ากองทุนเพื่อระดมทุน ในรูปแบบการขายเข้ากอง REIT ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์


ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับกำไร 3 ทางด้วยกัน ประกอบด้วย กำไรจากการค้าคาร์บอนเครดิตซึ่งบริษัทมีความสามารถในการหาตลาดผู้รับซื้อในต่างประเทศที่มีความต้องการและได้ราคา คาดว่าจะได้รับมาร์จิ้นจาการเทรดคาร์บอนเครดิตในอัตรา 60-70%ในส่วนธุรกิจแพลตฟอร์มตัวกลางซื้อขายคาร์บอนเครดิตผ่านบล็อกเชน สำหรับ B2C นั้นบริษัทยังจะได้รับค่าธรรมเนียมในใช้แพลตฟอร์ม นอกจากนี้บริษัทยังมีโอกาสได้รับกำไรจากการขายคาร์บอนเครดิตเข้ากองทุนในอนาคตด้วย


"เราจะดำเนินการเป็นตัวกลางซื้อขายคาร์บอนเครดิต โดยในต่างประเทศมีราคาซื้อขาย 20-90 ดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าในไทยอยู่ที่ 2ดอลลาร์ จึงเป็นโอกาสสำหรับเราที่จะเป็นตัวกลาง ในการซื้อขายคาร์บอนเครดิต เพราะเรามีตลาดรับซื้อ ตอนนี้เดินหน้าในด้านของซัพพลายที่จะเข้ามา โดยจะมีการเข้าไปเจรจากับธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ซึ่งบริษัทจะดำเนินการแบบวันสต็อปเซอร์วิส ตั้งแต่การให้บริการด้านการขึ้นทะเบียนโดยองค์กรระดับโลกเช่น โกลสแตนดาร์ด หรือ เวอร์ร่า จนถึงการรับซื้อ"


@คาร์บอนเครดิตโตโดด

นายธนากร กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการดำเนินการสร้างทีมบริหารจัดการ และPartnership Agreement ตั้งแต่ไตรมาส 4/2564-ไตรมาส 1/2565ปัจจุบันอยู่ในช่วงการพัฒนาระบบ Infrastructure ของแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้อง จากนั้นในไตรมาสที่ 3/2565 จะทำการเปิดตัว Marketplace / Platform ให้ลูกค้าสามารถเข้ามาใช้แพลตฟอร์มได้ และภายในไตรมาสที่ 4/2565 จะมีการจัดตั้ง Investment Fund เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเพิ่มเติมต่อไป


คาดการณ์ปริมาณการซื้อ-ขายผ่าน Marketplace ของบริษัท ในปีนี้ 1ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า คิดเป็นรายได้ประมาณ 7ล้านบาท ก่อนที่จะก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566จะมี 15.28 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า รายได้ราว 331ล้านบาท ปี 2567 จำนวน 28.86ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า รายได้ราว 886ล้านบาท และปี 2568 เท่ากับ 44.95ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า รายได้ 1,741ล้านบาท และปี 2569 จำนวน 50.77ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า คิดเป็นรายได้ราว 2,044ล้านบาท หากเป็นไปตามเป้าหมาย และแผนการที่วางไว้ บริษัทมุ่งหวังที่จะนำบริษัทคาร์บอนเครดิตเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นลำดับถัดไป


สำหรับประมาณการดังกล่าวประเมินบนพื้นฐานปัจจุบันที่เป็นความต้องการใช้คาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจเท่านั้น ยังไม่รวมในอนาคตที่มีโอกาสในการบังคับด้านการลดคาร์บอนผ่านภาษีต่างๆ ซึ่งจะเป็นอัพไซด์ที่ราคาคาร์บอนเครดิตจะเพิ่มขึ้นได้


จากข้อมูลของ Voluntary Carbon Credits ในปี 2563 ขนาดตลาดคาร์บอนเครดิตมีมูลค่า 400ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.2 หมื่นล้านบาท มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดจะสูงถึง 25,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 7.5แสนล้านบาท ในปี 2573 ซึ่งยังเป็นภาคสมัครใจ


จากอนาคตดังกล่าวประเมินว่า สัดส่วนธุรกิจบริษัทนั้นจะเปลี่ยนแปลงเป็นธุรกิจบริหารสินทรัพย์อยู่ที่สัดส่วน 30%ธุรกิจบริหารหนี้สิน มีสัดส่วนราว 30%ธุรกิจคาร์บอนเครดิต มีสัดส่วน 30%ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และมีเป้าหมายกำไรเติบโต 3เท่า


@ อนาคตไกล

ด้าน Mr.Assaf Amitay ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง GSI กล่าวว่า สถานการณ์ COP26ได้ทำให้ราคาคาร์บอนเครดิตเพิ่มขึ้นมาก จากการที่โลกประกาศปฏิญาณร่วมมือลดโลกร้อน ซึ่งแนวโน้มธุรกิจซื้อขายคาร์บอนเครดิตจะมีการเติบโตอย่างมาก โดยประเมินจะเติบโตปีละ 25% และเทรนด์ดังกล่าวทำให้ทั้ง ไมโครซอฟท์ และ อเมซอน เข้าไปลงทุนในธุรกิจนี้แล้ว


รู้ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ที่นี่ 

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/ 

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA 

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_ 

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA 

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7 

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5 

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X