ตลาดยังมี downside เน้นอ่อนตัวซื้อ ไม่ไล่ราคา

สวัสดีครับท่านนักลงทุน  SET ปรับตัวลง ตามตลาดหุ้นทั่วโลก  หลังยังมีแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงจากที่เฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย  อีกทั้งมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวจากต้นทุนพลังงานและเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง  รวมทั้งอียูจะมีแผนพิจารณามาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันรัสเซียเพิ่มเติม  นอกจากนี้เงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วยังกดดันการไหลเข้าของ Fund Flow ให้ชะลอตัวลง

ด้านแนวโน้ม SET ยังมองว่ามี downside และการฟื้นตัวจำกัด เนื่องจากมองว่าในประเทศไร้ปัจจัยหนุนใหม่  และยังมีความเสี่ยงภายนอก  เช่น ความกังวลเศรษฐกิจถดถอยที่มีมากขึ้น  หากสงครามในยูเครนและนโยบาย Covid-zero ในจีนยังไม่คลี่คลายภายใน 1H65  รวมทั้งการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดที่คาดว่ายังตึงตัวต่อเนื่องในอีก 3  เดือนข้างหน้า  เป็นปัจจัยลบกดดันภาพการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกรวมทั้งตลาดหุ้นไทยให้มี Downside Risk จากการปรับลดประมาณการแนวโน้มกำไรลงในระยะถัดไป นอกจากนี้ในเดือนพ.ค. คาดว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเกิด Sell in May โดยหากดูจากสถิติย้อนหลังไป 10 ปี ปรากฏว่ามี 6 ปี ที่ SET ในเดือน พ.ค. ปรับตัวลง ด้วยผลตอบแทนที่ -1.25% และหากดูเฉพาะในปีที่ในเดือน พ.ค. ที่ SET ปรับตัวลง หาก 4 เดือนก่อนหน้า คือ ม.ค.-เม.ย. ของทุกปี เมื่อ SET มีการปรับตัวขึ้นไปก่อนหน้าแล้ว โอกาสเกิด Sell in May หรือการที่ SET จะปรับตัวลงในเดือน พ.ค. มีความน่าจะเป็นสูงถึง 80% ดังนั้น หากดูในปีนี้ที่ SET ในเดือน ม.ค.-เม.ย. มีการปรับตัวขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าในเดือน พ.ค.ของปีนี้ จะเกิด Sell in May ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1550-1560 จุด

ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “รอจังหวะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา”  ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ ได้แก่ 1) กลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเติบโตดี  มีผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายนอกอย่าง KBANK AMATA LH GULF ADVANC 2) กลุ่มหุ้นที่กำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และราคาหุ้นลงแรงสะท้อน bond Yield ที่ขึ้นไปแรงใกล้จุดสูงสุดไปแล้ว เลือก MTC SAWAD GULF 3) กลุ่มหุ้นส่งออกที่ได้อานิสงส์บาทอ่อน และสหรัฐมีแผนลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อสกัดเงินเฟ้อ เลือก DELTA PSL RCL และ 4) กลุ่มหุ้นที่ผลประกอบการ 1Q65 เติบโตดี YoY และยังฟื้นตัวต่อเนื่องใน 2Q65 เลือก ZEN GFPT TOP BCP

ส่วนกลุ่มหุ้นที่ควรเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน  ได้แก่ 1) หุ้นนิคมอุตสาหกรรม  แม้ภาพพื้นฐานปีนี้จะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ  แต่ช่วงสั้นคาดว่าราคาหุ้นอาจได้ sentiment ลบจากสหรัฐเตรียมต่ออายุมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจีน และ 2) หุ้นกลุ่มขนส่ง  วัสดุก่อสร้าง บรรจุภัณฑ์ ที่ต้นทุนเชื้อเพลิงสูงขึ้นจะกดดันผลการดำเนินงาน  2Q65

ทั้งนี้ ในบรรดาหุ้นในกลุ่มต่างๆ ที่แนะนำ ผมเลือกมาจัดพอร์ต 5 ตัว เพื่อเป็นแนวทาง สำหรับท่านนักลงทุน ได้แก่

1)  KBANK หุ้น valuation น่าสนใจ โดยคาดว่ากําไรจะฟื้นตัวได้ดีในปี 2565 และมีผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายนอก ประกอบกับความเป็นผู้นําในด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง

2) GULF หุ้นที่ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเติบโตดี มีผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายนอก โดยผลประกอบการ 1Q65 เติบโตดี YoY และยังฟื้นตัวต่อเนื่องใน 2Q65

3) PSL กำไร 1Q65 ดีเกินคาด ประกอบกับเป็นหุ้นส่งออกที่ได้อานิสงส์บาทอ่อน และสหรัฐมีแผนลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

4) GFPT หุ้นเด่นกลุ่มอาหาร และกําไร 1Q65 และปี 2565 จะเติบโต YoY ดีที่สุดในกลุ่มอาหาร สนับสนุนด้วยยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น สอดคล้องกับอุตสาหกรรมไก่เนื้อไทย และกําลังการผลิตใหม่ของบริษัท

5) TOP หุ้นที่ผลประกอบการ 1Q65 เติบโตดี YoY และยังฟื้นตัวต่อเนื่องใน 2Q65 รวมทั้ง Sentiment บวก หลังมีแรงซื้อต่อเนื่องในกลุ่มพลังงาน ...และพบกันใหม่ในคอลัมน์ฉบับหน้า ด้วยรัก และหวังดี

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1