#CHEWA #ทันหุ้น - CHEWA ปักธงรายได้ปี 2565 แตะระดับ 3 พันล้านบาท พร้อมระดับอัตรากำไรสุทธิ4-10% อัดงบ 1.2 พันล้านบาท ลุยซื้อที่ดิน6 แปลง วางหมากรุกตลาดบ้านมือสองกับ "CHEWA RENUE" ปักเป้าโกยรายได้400 ล้านบาท ภายใน 3 ปี

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี2565 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้แตะที่ระดับไม่น้อยกว่า2,800-3,000 ล้านบาท และคาดว่าจะคงความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ระดับเฉลี่ยประมาณ4-10% โดยในปีนี้บริษัทจะมี 2 โครงการใหม่ ที่จะแล้วเสร็จพร้อมทยอยโอนกรรมสิทธิ์ และรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้เป็นปีแรก 

*โชว์แบ็กล็อกหนา
ประกอบด้วย 1. โครงการคอนโดมิเนียมชีวาทัย ปิ่นเกล้า มีจำนวน 593 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,587 ล้านบาท ที่คาดว่าจะพร้อมโอนและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2-3/2565 และ 2. โครงการชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 (เฟส 2) มีจำนวน380 ยูนิต มูลค่าโครงการ 994 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมLow Rise ที่คาดพร้อมโอนและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4/2565 

นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทยังมียอดขายรอการโอนกรรมสิทธิ์(Backlog) ในมืออยู่ที่ระดับ 1,800 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าทยอยโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้เข้ามาในปี2565 ได้ทั้งหมด จึงมองว่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตให้กับรายได้ในปีนี้ ขณะเดียวกันบริษัทยังมีสินค้าพร้อมขาย (Inventory) ในมือมูลค่ารวมประมาณ6,000 ล้านบาท รองรับการขายและรับรู้รายได้ในปี 2565 ถึงต้นปี 2566

 
**แตกไลน์บ้านมือสอง
ส่วนแผนการการลงทุนในปี2565 บริษัทวางการใช้งบประมาณไว้ที่ราว 1,200 ล้านบาท หลักๆ เพื่อจัดซื้อที่ดิน (Land Bank) เพื่อรองรับการพัฒนาเป็นโครงการ6 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ แบรนด์ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค จำนวน 2-3 โครงการ มูลค่าประมาณ2,800 ล้านบาท, โครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์ชีวารมย์ จำนวน 2 โครงการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท และทาวน์โฮม แบรนด์ชีวาโฮม จำนวน 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท เป็นต้น

นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจเดิมที่พัฒนาบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโด เพื่ออยู่อาศัยแล้ว บริษัทยังเล็งเห็นถึงโอกาสตลาดที่อยู่อาศัยมือสองที่ได้รับความนิยมมากขึ้น บริษัทจึงเปิดทีมรุกธุรกิจตลาดที่อยู่อาศัยมือสอง ในนาม "CHEWA RENUE" โดยนำจุดเด่นด้านการตรวจสอบคุณภาพ บริการหลังการขาย และเพิ่มแผนการตลาดพร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงตลาดที่อยู่อาศัยมือสองให้มากขึ้น

** มาร์จิ้นมากกว่า 30%

อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดจากรายได้ในธุรกิจหลักอีกทางหนึ่ง มองว่ากลุ่มสินค้าดังกล่าวสามารถสร้างอัตรากำไรขั้นต้นให้บริษัทต่อยูนิตได้มากกว่า 30% หรือมีอัตรากำไรสุทธิที่ราว 20% ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายภายในระยะเวลา3 ปีจากนี้ จะมีรายได้จากช่องทางดังกล่าวอยู่ที่ระดับมากกว่า400 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มประมูลทรัพย์เข้าพอร์ตได้ภายในปลายเดือนมีนาคม2565 เป็นต้นไป

รู้ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1