ทันหุ้น - WHA ดีมานด์ย้ายฐานทุนเข้าไทยพุ่ง พร้อมรับอานิสงส์รัฐเปิดประเทศ ลูกค้าต่างชาติแห่จองที่ จับตายอดขายไตรมาส 4/2564 เติบโตมีนัยสำคัญ ส่งซิกปี 2565 ยอดขายที่ดินเติบโต 20-30% ด้านโลจิสติกส์ปีนี้เด่น อวดสัญญาเช่าพื้นที่ระยะสั้นทะลุเป้าแตะ 6 หมื่นตารางเมตร โค้งสุดท้ายมีลูกค้าเรียงคิวเซ็นสัญญาเช่าเพียบ

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลายตัวลง รวมถึงภาครัฐคลายล็อกดาวน์และเปิดประเทศเดินทางได้ ส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมการค้าในช่วงที่เหลือของปีนี้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทได้รับความสนใจและการติดต่อจากลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก

นิคมบูม

ส่งผลให้คาดว่ายอดขายที่ดินในปี 2565 มีโอกาสที่จะเติบโต 20-30% จากปีนี้ อีกทั้งด้วยปัจจัยการเคลื่อนย้ายฐานทุนมาสู่ไทยยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและป้องกันผลกระทบจากสงครามการค้า รวมถึงปัญหาของซัพพลายเชนที่สะดุดในช่วงโควิด-19 ทำให้ต้องเร่งกระจายฐานลงทุน ตลอดจนปัจจัยต้นทุนค่าแรงและความเสี่ยงพลังงานจากการที่จีนต้องการการสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ในขณะที่ญี่ปุ่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา กลับมาดี จากเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น ทำให้เดินหน้าขยายธุรกิจ

โดยภาพรวมธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในไตรมาส 4/2564 มองว่าจะมีการฟื้นตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการเดินทางที่สะดวกมากขึ้นทำให้ลูกค้าต่างชาติยังคงเดินหน้าเข้ามาสำรวจพื้นที่ในนิคมอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่ายอดขายที่ดินในปลายปีนี้เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า โดยในปัจจุบันบริษัทมีพี้นที่ที่ทำสัญญาซื้อขายแล้วและรอโอนอยู่ประมาณเกือบพันไร่ และมีที่ดินถูกวางมัดจำที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา (LOI) ในมืออีกหลายร้อยไร่ คาดว่าบางส่วนจะถูกรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และต่อเนื่องไปในปี 2565

บริษัทวางแผน 2-3 ปีจากนี้ จะมีการพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมใหม่เพิ่มอีกประมาณ 2-3 แห่งในประเทศไทย และอีก 2 แห่ง ในประเทศเวียดนาม เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับความต้องการขยายฐานผลิตของต่างชาติที่เติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต ปัจจุบันมีการซื้อที่ดินรองรับไว้หมดแล้ว

อัพฐานทำเงิน

ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้า คาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะสามารถทยอยปิดดีลกับลูกค้าได้อีกหลายหมื่นตารางเมตร โดยเฉพาะในส่วนของสัญญาเช่าพื้นที่ระยะสั้นที่วางเป้าหมายการเช่าพื้นที่กว่า 50,000 ตารางเมตร ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ทำได้แล้วกว่า 60,706 ตารางเมตร ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

ขณะที่ธุรกิจสาธารณูปโภคมองว่าปี 2565 ยังคงมีการติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ตามดีมานด์การใช้น้ำและไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมและการย้านฐานทุนของต่างชาติเข้ามายังไทย ปัจจุบันบริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมือแล้ว 85 เมกะวัตต์ คาดว่าไตรมาส 4/2564 จะสามารถเซ็นสัญญา PPA ได้เพิ่มอีก 5 เมกะวัตต์ ส่งผลให้สิ้นปี 2564 จะมี PPA เพิ่มเป็น 90 เมกะวัตต์ จากสิ้นปีก่อนที่มีเพียง 50 เมกะวัตต์ โดยว่าเป้าหมายในปี 2566 จะมี PPA เพิ่มเป็นกว่า 300 เมกะวัตต์ ขณะที่ธุรกิจน้ำในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้บริษัทมีปริมาณการจำหน่ายน้ำอยู่ที่กว่า 103 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าปริมาณการจำหน่ายจะยังคงอยู่ในระดับสูงได้ และต่อเนื่องปี 2565 เช่นเดียวกัน

จากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทยังคงระดับความสามารถในการทำกำไรทั้งปี 2564 ได้ในระดับสูง โดยคาดการณ์กำไรจากการดำเนินการก่อนหักค่าใช้จ่าย (EBITDA) มากกว่า 40% หนุนจากผลการดำเนินงานในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจสาธารณูปโภค และธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่

APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1