ทันหุ้น – BTS สยายปีกสู่ Crypto Digital Token ส่ง U, VGI เข้าถือหุ้นใน JMART, SINGER, และ ALife  พัฒนา “เจฟินคอยน์” ร่วมวางแผนเทคโนโลยีทางการเงิน ชี้กลุ่ม JMARTนำจุดแข็งต่อยอดทั้งขยายฐานลูกค้า, เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย, ขยายผลิตภัณฑ์และบริการ หนุนบริษัทในเครือขึ้นแท่นผู้นำในธุรกิจ ย้ำกลุ่มBTS ใช้ “เจฟินคอยน์” ไตรมาส 1/2565

นายกวิน กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า กลุ่ม BTS อยู่ระหว่างศึกษา-วางแผนร่วมกับพันธมิตรกลุ่ม JMARTร่วมพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงิน ทั้ง Blockchain, เจฟินคอยน์ เพื่อใช้ในเครือข่ายของกลุ่ม BTS โดยตั้งเป้าให้เป็น “Crypto Digital Token” ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ใหม่และความสะดวกสบายให้แก่ฐานลูกค้าของทั้งกลุ่มบริษัท โดยเฉพาะการทำธุรกรรมต่างๆ รวมถึงการใช้งานแทนเงินสด ซึ่งจะช่วยสร้างอีโคซิสเต็ม (Ecosystem) ทางธุรกิจที่ครบวงจร พร้อมผลักดันให้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อเข้าสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เบื้องต้นคาดว่ากลุ่ม BTSจะเริ่มนำ เจฟินคอยน์ เข้ามาใช้ภายในไตรมาส 1/2565 เป็นต้นไป

“กระแสของ Blockchain รวมทั้ง Investment Token เป็นกระแสสำหรับอนาคต การนำโอกาสในการนำอีโคซิสเต็มของ JMART มาใช้ภายในเครือข่ายของกลุ่ม BTS จึงเป็นโอกาสที่ดี และจะร่วมกันผลักดันให้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อเข้าสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งหมดนี้จะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่จะเชื่อมต่อฐานข้อมูลที่ครอบคลุมที่สุด เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์และปรับปรุงบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกรูปแบบ”

ทั้งนี้ BTS ปรับโครงสร้างบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สู่ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจไฟแนนซ์ ด้วยการทยอยขายทรัพย์สินทั้งโรงแรมในทวีปยุโรป และอสังหาริมทรัพย์ในมือ ระดมทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาทเพื่อเข้าลงทุนโครงการที่เหมาะสมในอนาคต  ปัจจุบัน U มีกระแสเงินสดที่หลังจากเพิ่มทุนไปเมื่อปี 2563 วงเงินกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท รวมถึงขายโรงแรมในยุโรปได้กระแสเงินสดเข้ามา 3-4 พันล้านบาท แม้ปัจจุบันจะเข้าลงทุนใน JMART(ถือหุ้นในสัดส่วน 19.9%), SINGER(ถือหุ้นในสัดส่วน 24.9%), และ ALife ประกันชีวิต (ถือหุ้นในสัดส่วน 75%) ก็ยังมีกระแสเงินสดพร้อมลงทุนโครงการต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง Uจะทยอยขายสินทรัพย์ในไทยอย่างต่อเนื่องในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า

ขยายฐานต่อยอด

สำหรับความร่วมมือทางธุรกิจในอนาคต จะเป็นการนำ “จุดแข็ง” ของทั้ง 2 กลุ่มมาต่อยอดทั้งขยายฐานลูกค้า, เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย, ขยายผลิตภัณฑ์และบริการ ประกันภัย รวมไปถึงเทคโนโลยีและการให้บริการ O2O โซลูชั่นส์ ของ VGI ผ่านแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ ฯลฯ เพื่อผลักดันให้บริษัทในเครือก้าวขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจนั้นๆ

เบื้องต้นที่สามารถดำเนินการได้ทันที คือการกระจายสินค้าของ Fanslink อาทิ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาทิ Xiaomi, Amazfit, Haier ผ่านพื้นที่ค้าปลีกของกลุ่ม JMART ขณะที่กลุ่ม JMARTจะสามารถนำเสนอสินค้าเทคโนโลยีต่างๆ  ผ่านแพลตฟอร์มของ VGI ที่มีความแข็งแกร่ง และเพิ่มจุดให้บริการ (Service Point) บนสถานีรถไฟฟ้า รวมถึงการใช้เครือข่ายสื่อโฆษณา และการขนส่งสินค้าผ่านบริษัทในกลุ่ม VGI

เช่นเดียวกับ SINGER ซึ่งดำเนินธุรกิจในลักษณะ Non Bank มีสาขา และและแฟรนไชส์กว่า 2,000 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งจะเข้ามาเพิ่มพื้นที่โฆษณาให้ VGI รวมถึงเครือข่ายที่จะสามารถเป็นตัวแทนในการกระจายสินค้าเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคอย่างแพร่หลาย โดยหากผสานกับ Kerry จะเป็นการเพิ่มช่องทางและโอกาสในการต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ให้กับทั้ง 2 กลุ่มบริษัทได้มากยิ่งขึ้น

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า(ประเทศไทย) จำกัด ประมาณการกำไรปกติปี 2565/2566 ของBTS ไว้ที่ 4.1 พันล้านบาท(+34%YoY)และ4.5พันล้านบาท(+9%YoY)คงคำแนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2564 ที่10.90 บาทต่อหุ้น อิง[email protected]%WACC แม้เราคาดโควิดระลอกที่ 3 ยังเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น แต่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาราว 10%ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2564 ถึงปัจจุบัน จึงคาดสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่

APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1