> SET > QH

21 สิงหาคม 2021 เวลา 18:55 น.

'ดร.นิเวศน์'ยันไม่ทิ้งหุ้นไทย!! แค่ปรับพอร์ตทางยุทธศาสตร์

#จิมมี่มีเรื่องเม้าท์ แฮชแทคนี้ไม่มีใครตั้ง คอลัมน์นี้ไม่มีใครรู้ หัวหน้าก็ไม่รู้(จุ๊ๆไว้ อย่าไปบอกนะ 555) เอาเป็นว่า... หลังจากที่จิมได้อ่านบทความเรื่อง “การปรับพอร์ตทางยุทธศาสตร์” ของ “ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร”นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า(Value Investor) ซึ่งท่านได้แสดงมุมมองการลงทุนค่อนข้างตรงไปตรงมาตามแบบฉบับนักลงทุนผู้คร่ำหวอดในวงการหุ้นมากว่า 20 ปี >> อะไรดี อาจารย์ก็จะบอกว่าดี!! (ว่าซั่นนนน)


แน่นอนว่า การลงทุนมาอย่างยาวนานย่อมต้องมีการปรับเปลี่ยน และแล้วก็มีวันนี้จนได้ วันที่อาจารย์ท่านเขียนบทความเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งจิมขอหยิบยกประโยคหนึ่งซึ่งถือว่ามีนัยยะสำคัญมาให้ทุกท่านได้อ่าน


“ผมเองนั้น หลังจากลงทุนพอร์ตหุ้นแบบ Focus หรือเน้นหุ้นไม่กี่ตัวในตลาดหุ้นไทยมายาวนานกว่า 20 ปี ผมก็เริ่มเห็นว่าหุ้นในประเทศไทยเริ่มจะถึง “ทางตัน” ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ดังนั้นเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมาผมจึงเริ่มที่จะปรับพอร์ตทางยุทธศาสตร์ โดยการลดระดับการ Focus หรือเน้นหุ้นไม่กี่ตัวน้อยลง แต่ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนไปถือหลักทรัพย์อย่างอื่น ผมยังคิดว่าในระยะยาวหุ้นยังเป็นสินทรัพย์ที่ดีที่สุด สิ่งที่ผมทำก็คือการย้ายประเทศหรือตลาดลงทุน แต่ก็เป็นการค่อยๆทยอยลงทุนไปเรื่อยๆ โดยตลาดหุ้นต่างประเทศที่ไปลงทุนก็คือเวียดนาม ถึงวันนี้พอร์ตโตขึ้นกว่า 20% แล้วอานิสงค์จากการที่หุ้นมีราคาปรับตัวสูงขึ้นมาก” อ่านจบแล้ว จิมเชื่อว่า ทุกคนรู้ ใครๆก็รู้ อาจารย์ปรับลดพอร์ตหุ้นไทยแน่ๆ ว่าแต่จะเมื่อไหร่เท่านั้น


นั่นจึงเป็นที่มาของความเผือกของจิมเอง ไม่ใช่สิ จึงเกิดคำถามที่ว่า “ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร”กำลังจะทิ้งหุ้นไทยไปลงทุนหุ้นเวียดนามแบบจริงจัง ใช่หรือไม่ ?”


“ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร” ตอบชัดเจนว่า ไม่ใช่แบบนั้น ตอนนี้ยังถือลงทุนหุ้นไทย 80% ส่วนการปรับพอร์ตนั้นหมายความว่าจะเพิ่มพอร์ตลงทุนในหุ้นต่างประเทศมากกว่า 20% เพราะให้ผลตอบแทนสูง ไม่ต้องทำอะไรก็เติบโตที่ดีกว่า ขณะที่หุ้นไทยไม่โต ส่วนการจะลดพอร์ตหุ้นไทยหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่มีแผน


วันนี้มองตลาดหุ้นไทยอย่างไร ?


ต้องดูพื้นฐานของประเทศไทยว่าจะเป็นอย่างไรในระยะยาว ถ้าพื้นฐานแย่ลงเรื่อยๆ โดยธรรมชาติก็ต้องปรับพอร์ต คือ ลดน้ำหนักการลงทุน


หุ้นแบบไหนที่จะลดน้ำหนัก ?


ต้องดูเป็นรายตัว แม้หุ้นในพอร์ตจะดีแต่บางทีก็ไม่โตทำให้ราคาหุ้นไม่เพิ่มขึ้น ถ้าเป็นแบบนั้นในระยะยาวก็ไม่ใช่ ซึ่งเราเน้นลงทุนหุ้นที่เติบโต บางทีแค่แข็งแกร่งอย่างเดียวแต่ไม่เติบโตก็เป็นปัญหาเช่นกัน และหากในอนาคตเศรษฐกิจไม่โต อาจจะอยู่ได้แต่ไม่โต ถ้าเป็นแบบนั้นเราค่อยทยอยปรับลดพอร์ต


ทั้งนี้มีหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่โต หากธุรกิจต้องอิงการบริโภค การใช้จ่ายของคน เบื้องต้นอาจอยู่ได้ ไม่ถูกดิสรัปแต่คนน้อยลง คนใช้จ่ายเต็มที่แล้วก็ยังไม่โต ซึ่งอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่โต เพียงแต่กำไรยังดี ผลตอบแทนจากเงินปันผลดี 6-7%ถือว่าคุ้มค่าหลายตัว ถ้าเป็นแบบนี้ยังถือได้ ยกเว้น ปันผล 7-8% แต่เรามีทางเติบโตในต่างประเทศหรืออื่นๆที่ดีกว่าก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ มันมีเงื่อนไขหลายอย่างเวลาที่คุณคิดจะปรับพอร์ต จะขายหุ้นตัวไหนก็พิจารณาเป็นตัวๆไป


“แนวทางการลงทุนแบบผมเน้นต้องแข็งแกร่ง ราคาไม่แพง อยู่ได้ ผลตอบแทนที่เหมาะสมก็ไม่รีบร้อนอะไร มองหาโอกาสไปเรื่อยๆ แต่ถ้าหุ้นตัวไหนรู้สึกว่าอนาคตมันจะถดถอย ผลตอบแทนจากเงินปันผลไม่ดีพอ แบบนี้ก็อาจจะพิจารณาขายออกไป แต่ด้วยส่วนตัวเป็นนักลงทุนระยะยาวก็ต้องมองยาวจะขายออกไปเลยก็อาจจะไม่ใช่ ต้องพิจารณารอบด้าน”


#ถ้าเธอฮู้แล้วเธอสิเลิกเล่นบ่อ

.

.

"ทันหุ้น" นำเสนอข่าวผ่านสื่อโซเชียล ดังนี้

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X