ทันหุ้น- บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือSCBS ยังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ BEM และคงราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี SOTP ไว้ที่ 10 บาท เนื่องจากสมมติฐานใหม่มีผลกระทบน้อยมาก เพราะเราปรับเพียงแค่สมมติฐานปริมาณจราจรในครึ่งปีหลัง2564 และคาดว่าราคาหุ้น BEM จะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเดือนส.ค. โดยอาจจะเกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงเดือนก.ย. และน่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น
ดังนั้นจึงแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อสะสม BEM เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำกว่า 8 บาท/หุ้น (-0.5SD ของ PE เฉลี่ยในอดีต) แต่ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อคำแนะนำของเรา คือ หากสถานการณ์โควิด-19 เลวร้ายลง และรัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดขึ้น
คาดว่า BEM จะรายงานกำไรสุทธิ 113 ลบ. ใน 2Q64 ลดลง 63.1% QoQ และ 26.1% YoY แม้ไม่มีการล็อกดาวน์ใน 2Q64 และจุดต่ำสุดยังสูงกว่าเดือนเม.ย. 2563 แต่การระบาดหลายรอบของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อปริมาณจราจรใน 2Q64 ปริมาณจราจรบนทางด่วนใน 2Q64 ลดลง 19.8% QoQ และ 4.2% YoY สู่ 70.1 ล้านเที่ยวรายได้จากธุรกิจทางด่วนน่าจะอยู่ที่ 1.5 พันลบ. ลดลง 22.6% QoQ และ 3.7% YoY จำนวนผู้โดยสาร MRT สายสีน้ำเงินใน 2Q64 อยู่ที่ 10.8 ล้านเที่ยว ลดลง 43.8%QoQ และ 10.7% YoY
เมื่อรวมรายได้ O&M สำหรับสายสีม่วงเข้ามา รายได้จากธุรกิจระบบรางจะอยู่ที่ 800 ลบ. ลดลง 21.8% QoQ และ 1.9% YoY ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมค่าเสื่อมราคาน่าจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว QoQ ทั้งนี้ใน 2Q64 เราคาดว่า BEM จะบันทึกรายได้เงินปันผลจาก TTW และ CKP จำนวน 270 ลบ. ซึ่งจะช่วยชดเชยผลกระทบจากปริมาณจราจรที่ลดลง กำไรสุทธิ 1H64 น่าจะคิดเป็นสัดส่วน 38% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ที่เราปรับใหม่ BEM จะประกาศผลประกอบการวันที่ 11 ส.ค.
การล็อกดาวน์กรุงเทพฯ จะส่งผลกระทบทั้งต่อปริมาณจราจรบนทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT ในเดือนก.ค. อย่างไรก็ดี เราไม่คิดว่าปริมาณจราจรบนทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT ในเดือนก.ค. จะต่ำกว่าเดือนเม.ย. 2563 เนื่องจากประชาชนน่าจะมีความเข้าใจและรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีขึ้น
จะเห็นปริมาณจราจรฟื้นตัวในเดือนก.ย. การล็อกดาวน์ส่งผลกระทบต่อ sentiment ในระยะสั้น เมื่ออิงกับอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกรุงเทพฯ ที่ ~64% (โดสแรก) ในปัจจุบัน และอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ 79,000 โดสต่อวันในกรุงเทพฯ (ความเร็วเฉลี่ยในเดือนก.ค.) เราประเมินได้ว่าอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 น่าจะถึง 70% ภายในกลางเดือนส.ค. โดยใช้สมมติฐานว่าสามารถรักษาอัตราการฉีดวัคซีนในระดับดังกล่าวไว้ได้ ทั้งนี้แม้อัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่จะต้องใช้เวลาก่อนที่กิจกรรมทางธุรกิจจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ดังนั้นเราคาดว่าปริมาณจราจรจะเริ่มฟื้นตัวในเดือนก.ย.
ก่อนหน้านี้เราใช้สมมติฐานว่าปริมาณจราจรบนทางด่วนในปี 2564 จะเติบโต 1.6% และจำนวนผู้โดยสาร MRT จะเติบโต 5.0% เมื่ออิงกับตัวเลขใน 1H64 ซึ่งปริมาณจราจรบนทางด่วนลดลง 9.6% YoY และจำนวนผู้โดยสาร MRT ลดลง 28.2% YoY รวมถึงมาตรการล่าสุดของรัฐบาล เราจึงปรับสมมติฐานปริมาณจราจรบนทางด่วนลดลงสู่ระดับที่หดตัวลง 16.2% และจำนวนผู้โดยสาร MRT ลดลงสู่ระดับที่หดตัวลง 30% (อย่างไรก็ตาม เรายังคงสมมติฐานสำหรับปี 2565 ไว้เหมือนเดิม เมื่ออิงกับสมมติฐานใหม่ เราจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ของ BEM ลดลง 54.8% สู่ 1.1 พันลบ. ลดลง 45.9% YoY ก่อนที่จะฟื้นตัวสู่ 3.6 พันลบ. (+227.2%) ในปี 2565
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม