> อาหารสมอง >

02 สิงหาคม 2021 เวลา 18:30 น.

'เครดิต สวิส' มองครึ่งหลังปี 64 ตลาดตราสารทุนน่าสนใจ ท่ามกลางการฟื้นตัวศก.

ทันหุ้น - เครดิต สวิส มองในครึ่งหลังปี 2564 ตลาดตราสารทุนน่าสนใจ ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สภาวะตลาดยังคงเป็นปัจจัยหนุนสำหรับสินทรัพย์ทางการเงินขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว  ซึ่งเป็นผลจากการเร่งฉีดวัคซีนและการทยอยเปิดเศรษฐกิจในประเทศหลัก ๆ  ของโลก


มร.จอห์น วูดส์: Chief Investment Officer ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ  เครดิต สวิส กล่าวว่า  “การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียจะยังคงดำเนินไปอย่างแข็งแกร่ง  โดยประเทศในเอเชียที่ไม่รวมญี่ปุ่น มีแนวโน้มการเติบโตที่ร้อยละ 7.5 ในปี  2564 และร้อยละ 5.7 ในปี 2565 ส่วนเอเชียเหนือคาดว่าจะเติบโตได้  อันเป็นผลมาจากความต้องการเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม  เศรษฐกิจของประเทศอินเดียและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้น่าจะไล่ตามขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง  เนื่องจากมีความต้องการขยายตัวไปสู่กลุ่มผู้ผลิตสินค้าอื่น ๆ  อีกทั้งการท่องเที่ยวก็เริ่มฟื้นตัว  ส่วนหุ้นยังคงให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะกลาง แต่เรายังต้องใช้กลยุทธ์แบบ  strategic weights สำหรับในเอเชียเรามีมุมมองที่ดีต่อตราสารทุนเกาหลีและไทย  อันเป็นอานิสงส์จากสถานการณ์ไมโครชิปขาดตลาด  ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลกที่กำลังเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น”


มร.เอ็ดวิน  ตัน: Head of Wealth Management Onshore and Head of Investment Advisory  Solutions ประจำประเทศไทยของ เครดิต สวิส กล่าวว่า  “ความเสี่ยงอันเนื่องมาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นค่อนข้างคงตัว  มีภาวะการขาดดุลแฝด (twin deficits –  ภาวะเศรษฐกิจที่ขาดดุลทั้งดุลการคลังและดุลบัญชีเดินสะพัด)  ซึ่งส่งผลกระทบต่อโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)  จะดำเนินนโยบายการเงินเพื่อให้กลับสู่สภาวะปกติ (Fed Policy Normalization)   สภาวการณ์นี้ทำให้ปัจจัยพื้นฐานระดับภูมิภาคและระดับประเทศมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้น  เรายังมองสกุลเงินในเอเชียเป็นเชิงบวก ถึงแม้ว่าสกุลเงินในเอเชียเหนือ  โดยเฉพาะสกุลเงินหยวนและวอนเกาหลีใต้มีแนวโน้มที่จะแข็งค่ามากขึ้นในอนาคตอันใกล้  เป็นผลมาจากดุลการชำระเงินที่เข้มแข็ง  เราคิดว่าการฟื้นตัวของราคาทองคำจะเริ่มชะลอตัวลง หาก Fed  เริ่มหารือลดขนาดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐและแนวโน้มผลตอบแทนจากความเสี่ยงโดยรวมเริ่มชะลอตัวลง”


**แนวโน้มของเศรษฐกิจและสกุลเงินในประเทศหลัก 


สหรัฐอเมริกา: เครดิต สวิส คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตในอัตราร้อยละ  6.9 ในปี 2564 ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้  เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากภาวะถดถอยอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19  คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงกว่าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ  ตั้งเป้าไว้เป็นการชั่วคราว  แต่ยังไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในระยะเวลาอันใกล้  สำหรับมุมมองของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเราเชื่อว่าจะยังคงอ่อนค่าลงไปอีก  เมื่อเทียบกับสกุลเงินวัฎจักรอย่างดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์นิวซีแลนด์  และโครนนอร์เวย์  แต่มีมุมมองที่เป็นกลางมากขึ้นสำหรับสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า  เช่น ฟรังก์สวิสหรือเงินเยน


ยูโรโซน: คาดว่ายุโรปจะเติบโตร้อยละ 4.2 ในปี 2564  เศรษฐกิจของยุโรปนั้นดีขึ้นอย่างมาก  อัตราการฉีดวัคซีนในยุโรปเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ  คาดว่าอัตราการฉีดวัคซีนนั้นจะใกล้เคียงกับสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรมากขึ้น   ทำให้ประสบความสำเร็จในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้เร็วกว่าที่กังวลไว้ก่อนหน้านี้  การเปิดประเทศจะเป็นการเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเขตยุโรปได้เป็นอย่างมาก  ยุโรปน่าจะมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วในครึ่งปีหลัง  เราจึงยังคงคาดการณ์ในเชิงบวกสำหรับสกุลเงินยูโรต่อดอลลาร์สหรัฐ  และคาดว่าจะค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้นถึง 1.24 ใน 12 เดือนข้างหน้า


สาธารณรัฐประชาชนจีน: เศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง  และเราคาดว่าจีนจะเติบโตร้อยละ 8.2 ในปี 2564  แม้ว่าการสนับสนุนนโยบายทางการคลังและการเงินในปีที่ผ่านมาจะล่าช้า  อุปสงค์ภายนอกยังถือเป็นกำลังขับเคลื่อนหลักในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและค่าเงินหยวน   ดุลการค้าที่แข็งแกร่งและเม็ดเงินที่ไหลเวียนอยู่เฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศ  ทำให้มุมมองของเราที่มีต่อค่าเงินหยวนยังดำเนินไปในทิศทางบวก  ถึงแม้จะมีความกังวลของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการเก็งกำไรค่าเงิน  อันเนื่องมาจากการแข็งค่าของเงินหยวนก็ตาม


ญี่ปุ่น: เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 1.9  โดยความท้าทายด้านประชากรศาสตร์ของการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุนั้นชดเชยด้วยความสามารถในการผลิตที่มั่นคง  อันเนื่องมาจากนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่มีมาต่อเนื่อง  เงินเยนซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำยังคงอ่อนตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ


**มุมมองสินทรัพย์หลัก


ตราสารทุน ยังคงให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะกลาง เนื่องจาก Valuation  เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว  และดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลงได้รับการชดเชยด้วยเงื่อนไขการสนับสนุนทางการเงิน  และการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของบริษัทจดทะเบียน ทั้งผลประกอบการและกำไร  เราสนใจตลาดตราสารทุนที่อิงวัฏจักรเศรษฐกิจ เช่น สหราชอาณาจักร เยอรมนี  และสเปน โดยเน้นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับอิทธิพลโดยตรงจากวัฏจักรเศรษฐกิจ เช่น  กลุ่ม Financials และ กลุ่ม Materials ในส่วนเอเชีย  เราให้ความสนใจตราสารทุนเกาหลีและไทย


จีน  เรายังคงมีมุมมองที่เป็นกลางต่อตราสารทุนจีน  เนื่องจากการเติบโตที่เริ่มชะลอตัวลงหลังการฟื้นฟูของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วเพื่อกลับสู่สภาวะปกติ   ความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลจากหน่วยงานภาครัฐของจีนมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาด  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม Internet และกลุ่ม Property  ซึ่งลดความเชื่อมั่นในหมู่นักวิเคราะห์ แม้ว่า Valuation  จะมีความสมเหตุสมผลมากขึ้น แต่ยังไม่มีปัจจัยที่จะทำให้ตราสารทุนจีน  outperform ตลาดโลกและตลาดเกิดใหม่


ประเทศไทย  เราให้ความสำคัญกับตราสารทุนไทย  ซึ่งน่าจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของวัฏจักรเศรษฐกิจโลก  และการขึ้นราคาน้ำมันอันเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมที่อิงกับวัฏจักรเศรษฐกิจซึ่งมีสัดส่วนการใช้น้ำมันมากขึ้น  ยิ่งไปกว่านั้น ไทยได้เริ่มโครงการกระตุ้นการฉีดวัคซีน  ซึ่งน่าจะเติมความหวังในการช่วยดึงการท่องเที่ยวระหว่างประเทศให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง


การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd immunity) และวิถีชีวิตแบบ New Normal  เนื่องจากการปูพรมฉีดวัคซีนในตลาดที่พัฒนาแล้วดำเนินไปอย่างรวดเร็ว  การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จึงเป็นเป้าหมายที่ไม่ไกลเกินเอื้อม  เราเห็นว่ามีกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีน  อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  อย่างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (สนามบินและสายการบิน)  และธุรกิจการค้าปลีกแบบดั้งเดิม  จะเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์หลักจากการฟื้นตัวของการเดินทางระหว่างประเทศ  รวมไปถึงกิจกรรมทางสังคมอื่น ๆ เราคาดว่าอุตสาหกรรมที่อิงวัฏจักรเศรษฐกิจ  อาทิ กลุ่มพลังงานหรือกลุ่มการเงิน  จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น  ซึ่งจะสร้างความแข็งแกร่งและเปลี่ยนจากหุ้นที่มีการเติบโตสูง (Growth)  เป็นหุ้นคุณค่า (Value) ได้


การสร้างความยั่งยืน (ESG) ของจีน  การเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจแบบไร้การปล่อยคาร์บอนภายในปี 2603  ของจีนจะสร้างโอกาสมหาศาลให้กับอุตสาหกรรมในหลายภาคส่วน เช่น  ยานพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนจะมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 20 ภายในปี 2568  ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนความต้องการแบตเตอรี่ในตลาดมากขึ้น  กฎระเบียบข้อบังคับและการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายจะเป็นอีกแรงผลักดันส่งผลให้อุตสาหกรรมต่าง  ๆ หันมาใช้พลังงานแบบหมุนเวียน อาทิ ต้นทุนแผงโซลาร์เซลล์ที่ลดลงถึงร้อยละ  90 ในช่วง 10  ปีที่ผ่านมาทำให้แผงโซลาร์เซลล์กลายเป็นแหล่งพลังงานที่ถูกกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล  เราชอบบริษัทที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานแสงอาทิตย์ แบตเตอรี่  และสาธารณูปโภคของจีน ซึ่งมีการซื้อขายกันโดยใช้ distressed valuations


สำหรับตราสารหนี้ ผลตอบแทนจากพันธบัตรทั่วโลกจะลดลง อย่างไรก็ตาม  พันธบัตรจีนและพันธบัตรอื่น ๆ ในเอเชียยังคงให้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ  และคาดว่าจะ outperform
- เราให้ความสนใจ Asian USD credit ใน 12  เดือนข้างหน้า คาดว่าจะมีผลตอบแทนที่ร้อยละ 3 สำหรับ Asian investment  grade USD credit และร้อยละ 6-8 สำหรับ Asian high-yield USD credit
-  นอกจากนี้ เรายังสนใจ Chinese RMB bonds  ที่ออกจำหน่ายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะมีผลตอบแทนที่ร้อยละ 5 ใน  12 เดือนข้างหน้า


หุ้นโภคภัณฑ์ (Commodities)  ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งตามการผลิตของกลุ่มอุตสาหกรรมโลก (ไม่รวมจีน)  โดยมีแรงส่งที่เกื้อหนุนแต่การฟื้นตัวของหุ้นเริ่มมีความเสถียรมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม  การเติบโตในจุดสูงสุดเริ่มที่จะใกล้เข้ามาเนื่องจากปัญหากำลังการผลิตไม่เพียงพอเริ่มที่จะคลี่คลาย  หุ้นกลุ่มแร่โลหะได้ชะลอตัวลงด้วยอัตราการเติมสินค้าที่ลดลง  และอาจนำไปสู่ภาวะสินค้าล้นตลาดในไม่ช้า


การลงทุนทางเลือก (Alternative investments)  ข่าวความคืบหน้าของวัคซีนได้กระตุ้นการฟื้นตัวในกลุ่มย่อยของอุตสาหกรรมที่อิงกับวัฏจักรเศรษฐกิจ  เช่น การค้าปลีกและสำนักงาน แต่โอกาสที่จะขึ้นต่อนั้นค่อนข้างจำกัด  เนื่องจาก valuation นั้นไม่น่าสนใจ  และผลกระทบอันเนื่องมาจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซและมาตรการการทำงานที่บ้าน



อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X