> SET > ORI

27 กรกฎาคม 2021 เวลา 16:34 น.

ORI ธุรกิจ JV กระตุ้นกำไร Q2/64 โบรกอัพเป้าใหม่ที่ 10.80 บ.

ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย คงคำแนะนำ “ซื้อ” ORI โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายกลางปี 2565 เป็น 10.8 บาทจาก 10.5 บาท เพื่อสะท้อนถึงมูลค่าส่วนเพิ่มจากการ JV กับ JWD คาดว่า ORI จะรายงานกำไรไตรมาส 2/2564 ที่ 840 ลบ. โตขึ้น 18.8% YoY และ 1.8% QoQ ธุรกรรมเกี่ยวกับ JV จะเป็นแรงหนุนสำคัญต่อการเติบโตของกำไร แม้จะมีคำสั่งปิดสถานที่ก่อสร้าง แต่ด้วยกำไรครึ่งปีแรกที่คิดเป็น 54% ต่อประมาณการทั้งปีและกลุ่มแนวราบที่ยังแข็งแกร่ง ตัวเลขปี 64 ของฝ่ายวิจัยจึงยังสมเหตุสมผล


ฝ่ายวิจัยคาดว่า ORI จะรายงานกำไรไตรมาส 2/2564 ที่ 840 ลบ. เติบโตขึ้น 18.8% YoY และ 1.8% QoQ แม้ฝ่ายวิจัยจะคาดว่ารายได้การขายในไตรมาส 2/2564 จะลดลงเล็กน้อย 0.7% YoY และ 11.0% QoQ และมองว่าอัตรากำไรขั้นตน้ (GPM) ในไตรมาส 2/2564 จะทรงตัว (การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น จะมาจากการปรับเปลี่ยนสัดส่วนผลิตภัณฑ์) แต่การจัดตั้งโครงการร่วมทุน (JV) 2 โครงการในช่วงไตรมาสจะสร้างผลกำไรจากส่วนเกินมูลค่าหุ้น (share premium) รวมถึงรายได้การบริการจัดการโครงการก้อนใหญ่ ด้วยแรงหนุนจากการที่หนึ่งในโครงการ JV ใหม่อย่าง โซโหแบงค็อก รัชดา (มูลค่า 1.7 พันลบ. ขายแล้ว 81%) มีการเปิดขายไปแล้ว และมี backlog ระดับสูงในช่วงไตรมาส ปัจจัยเหล่านี้คือปัจจัยกระตุ้นกำไรไตรมาส 2/2564 ทั้งในเชิง YoY และ QoQ ขณะเดียวกันก็ช่วยทำให้กำไรครึ่งแรกของปี 2564 คิดเป็นสัดส่วนที่ 54% ต่อประมาณการกำไรทั้งปี 2564 ของฝ่ายวิจัย


กิจกรรมการโอนยังมีทิศทางที่ดี แม้จะชะลอตัวลง แม้ฝ่ายวิจัยจะเล็งเห็นการปรับตัวลดลงของรายได้ไตรมาส 2/2564 ทั้งในเชงิ YoY และ QoQ จากฐานที่สูงอย่างมากในไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ ORI รับรู้รายได้ก้อนใหญ่จากโครงการไนท์บริดจ์ ไพรม์ สาทรและพาร์ค 24 เฟส 1-2 และฐานที่สูงในไตรมาส 1/2564 จากการเลื่อนรับรู้รายได้จำนวน 1.5 พันลบ. จากไตรมาส 4/2563 แต่คาดว่ารายได้ไตรมาส 2/2564 จะยังอยู่ในระดับสูงที่ 3.0 พันลบ. หรือราวๆ 1 ใน 4 ของเป้าหมายรายได้การขายทั้งปี 2564 ของ ORI ที่ 1.28 หมื่นลบ. นอกเหนือจากโครงการที่พร้อมเข้าอยู่อย่างไนท์บริดจ์ พระราม 9 และพาร์ค 24 เฟส 2 การโอน backlog ในโครงการอย่าง ดิ ออริจิน รามอินทรา 83 และไนท์บริดจ์ สุขุมวิท เทพารักษ์ ก็ยังมีระดับที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ ด้วยฐานที่ต่ำและยอดขายที่สูงในครึ่งแรกของปี 2564 ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่าบริษัทฯ จะมีรายได้กลุ่มแนวราบที่สูงเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 2/2564


สำหรับ การปิดสถานที่ก่อสร้างยังบริหารจัดการได้หากไม่ขยายกรอบเวลาเพิ่มเติมมากนัก แม้ ORI จะยังบริหารจัดการผลกระทบจากคำสั่งปิดสถานที่ก่อสร้างเป็นเวลา 30 วันได้ เพราะงานในส่วนของคอนโดหลายแห่งของ ORI ที่มีกำหนดการแล้วเสร็จในปี 2564 นั้นมีระดับการก่อสร้างที่มีความคืบหน้ากว่าแผนอยู่เล็กน้อย แต่มองว่ากิจกรรมการเปิดตัวโครงการใหม่และการโอนจะได้รับผลกระทบเชิงลบ หากคำสั่งดังกล่าวที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 27 ก.ค. นั้นถูกขยายกรอบเวลาการบังคับใช้ออกไป ทั้งนี้ แม้ปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวจะกดดันผลประกอบการในไตรมาส 3/2564 แต่มองว่าอุปสงค์ที่สะสมในช่วงดังกล่าว (pent-up demand) และกิจกรรมการโอนที่เลื่อนมาจากไตรมาส 3/2564 จะไปชดเชยได้ในไตรมาส 4/2564 ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงยังคงประมาณการปี 2564 ตามเดิม


**ธุรกิจใหม่หนุนเพิ่มมูลค่าหุ้น 

นอกเหนือจากธุรกิจการแพทย์แล้ว ธุรกิจ AMC และนายหน้าขายประกัน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมภายใต้ JV ใหม่ ร่วมกับ JWD ก็มีศักยภาพในการสร้างกำไรและมูลค่าส่วนเพิ่มจำนวนมากตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไปเมื่อสินทรัพย์ส่วนแรกที่ครอบคลุมส่วนของคลังสินค้าขนาด 62,000 ตร.ม. นั้นขายเข้ากอง REIT ได้ ทั้งนี้ เมื่ออิงสมมติฐานว่า JV จะทำธุรกรรมดังกล่าวไดแล้วเสร็จตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ 1) การขายสินทรัพย์คลังสินค้าขนาด 62,000 ตร.ม. เข้ากอง REIT ได้ทุกปีเป็นเวลา 10 ปี 2) มีราคาขายที่ 24,000 บาท/ตร.ม. 3) มีอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 30% 4) อัตรากำไรสุทธิ (NPM) ที่ 15% 5) อัตราการกูยื้มที่ 1:1 6) ต้นทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (WACC) ที่ 7% และ 7) อัตราการเติบโตที่ 2% ก็ประเมินว่าจะมีมูลค่าส่วนเพิ่มต่อราคาเป้าหมายกลางปี 2565 ของฝ่ายวิจัยที่ 0.26 บาท


ทั้งนี้เพื่อสะท้อนถึงมูลค่าส่วนเพิ่มจากการ JV กับ JWD ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายกลางปี 2565 สำหรับ ORI ขึ้นเป็น 10.80 บาทจาก 10.50 บาท ด้วย upside 27.1% จากการเปรียบเทียบราคาปิดล่าสุดกับราคาเป้าหมายใหม่ของฝ่ายวิจัย บวกกับอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (DY) ปี 2564 ที่ 6.3% จึงยังคงคาแนะนา “ซื้อ” ORI ทั้งนี้ นอกเหนือจากทิศทางกำไรที่ดีในไตรมาส 2/2564 ก็มองว่าความคืบหน้าด้านยอดขายของโครงการใหม่ที่ดีในครึ่งหลังของปี 2564 การลงทุนครั้งใหม่ และการนำบริทาเนียจดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์คือปัจจัยสำคัญที่จะลดช่องว่างระหว่างราคาปิดกับราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัยได้ ทั้งนี้ มองว่าการขยายกรอบเวลาของคาสั่งปิดสถานที่ก่อสร้างคือปัจจัยเสี่ยงสาคัญต่อราคาหุน้ ของ ORI ในระยะสั้น

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X