> SET > SCC

21 กรกฎาคม 2021 เวลา 17:45 น.

"SCC" โบรกคาด Q2 กำไรสูงสุดของปี แต่หั่นเป้า ชี้เข้าสู่วัฏจักรขาลงอุตฯ ปิโตรเคมี

ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย ส่องหุ้น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC คาดกำไรไตรมาส 2/2564 จะแตะจุดสูงสุดของปีนี้ โดยคาดจะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 ที่ 1.51 หมื่นลบ. (EPS 12.6 บาท) โตขึ้น 61% YoY และ 1% QoQ มีแรงหนุนมาจากส่วนแบ่งกำไรที่แข็งแกร่งจากธุรกิจเคมีภัณฑ์และรายได้เ งินปันผลที่สูงขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (CBM) ที่มีภาพรวมอ่อนแอ ขณะเดียวกันก็คาดว่ากำไรปกติจะก้าวขึ้นสู่ระดับ 1.46 หมื่นลบ. หรือโตขึ้น 46% YoY และ 6% QoQ โดยมีแรงหนุนเหมือนกับข้างต้น เมื่ออิงจากภาพรวมดังกล่าว ก็คาดว่ากำไรสุทธิในครึ่งแรกของปี 2564 จะอยู่ที่ 3.0 หมื่นลบ. หรือโตขึ้น 84% YoY และคิดเป็น 70% ต่อประมาณการทั้งปีของฝ่ายวิจัย


มีแรงหนุนมาจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยธุรกจิ CBM ที่อ่อนแอได้ ฝ่ายวิจัยคาดว่าผลการดำเนินงานในธุรกิจเคมีภัณฑ์ของ SCC ในไตรมาส 2/2564 จะปรับดีขนึ้ YoY และ QoQ จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ (P2F) ที่ดีขึ้น สืบเนื่องจากราคาขายที่มีการปรับตัวล่าช้ากว่า 1 เดือน รวมถึงจากยอดขายโอเลฟินส์ที่ปรับดีขึ้น 2% จากส่วนแบ่งเต็มไตรมาสจากโครงการ MOCD อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ CBM ของบริษัทฯ จะอ่อนแอลงจากอุปสงค์การใช้ซีเมนต์ในประเทศและภูมิภาคที่ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกล่าสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงปัจจัยตามฤดูกาล ทั้งนี้คาดว่าอุปสงค์การใช้ซีเมนต์ในประเทศจะปรับลดลง 2% YoY ในไตรมาส 2/2564 ในด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์ก็คาดว่าจะชะลอตัวลง QoQ จากปัจจัยด้านต้นทุน (cost push) นอกจากนี้คาดว่าบริษัทฯ จะมีกำไรสต็อกน้ำมันที่ 500 ลบ. ลดลงครึ่งหนึ่งจาก 1.1 พันลบ. ในไตรมาส 1/2564 แต่นับว่าพลิกจากขาดทุนสต็อกน้ำมันที่ 590 ลบ. ในไตรมาส 2/2563


ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรสุทธิของ SCC ในไตรมาส 3/2564 จะลดลงอย่างมาก QoQ จากการปรับตัวลดลงของอัตรากำไรเคมีภัณฑ์ อุปสงค์ที่อ่อนแอลงในธุรกิจ CBM รวมถึงการขาดหายไปของรายได้เงินปันผลในช่วงไตรมาส ทั้งนี้ ส่วนต่างราคา HDPE ได้ปรับตัวลดลงไปมากกว่า 24% QTD ขณะที่อัตรากำไร PP ปรับลดลง 21% QTD ขณะเดียวกันก็คาดว่าอุปสงค์การใช้ซีเมนต์ในประเทศจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่อง และการปิดสถานที่ก่อสร้างทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากความสามารถในการปรับราคาขาย ทั้งนี้ ในส่วนของกำไรสต๊อกน้ำมัน เชื่อว่าระดับกำไรจะหดตัวลงหรือกระทั่งพลิกเป็นขาดทุนจากราคาเคมีภัณฑ์ที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง


ปัจจัยเสี่ยงต่อประมาณการกำไรทั้งปี 2564 ของฝ่ายวิจัยค่อนไปทาง upside ด้วยการที่กำไรสุทธิในครึ่งแรกปี 2564 อาจคิดเป็น 70% ต่อประมาณการกำไรปีของ ทำให้ประมาณการทั้งปี 2564 ของฝ่ายวิจัยมีความเสี่ยงที่ค่อนไปทาง upside 5-10% อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้จะยังไม่ปรับประมาณการกำไรใดๆ เพราะคาดว่ากำไรสุทธิในครึ่งหลังปี 2564 จะลดลง HoH และอาจมีผลขาดทุนสต็อกน้ำมัน รวมถึงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในภูมิภาค


ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” และลดราคาเป้าหมายเป็น 456 บาท ด้วยการที่กำลังเข้าสู่วัฏจักรขาลงของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์ไม่สามารถสะท้อนผลกำไรที่แข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 2/2564 ได้ จึงเล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ที่มูลค่าหุ้นจะปรับลดลง (derate) เพื่อสะท้อนถึงกาไรในอนาคตที่จะค่อยๆ ปรับลดลง ด้วยยเหตุนี้จึงปรับลดเป้าหมาย PBV สำหรับสิ้นปี 2564 ลงสู่ระดับวัฏจักรขาลง หรือจาก 1.7 เท่า (-1SD) มาอยู่ที่ 1.45 เท่า (-1.5SD) ขณะที่ยังคงเป้าหมาย PBV สำหรับสิ้นปี 2565 ที่ 1.45 เท่า ส่งผลให้มีราคาเป้าหมายใหม่สำหรับกลางปี 2565 ที่ลดลง 8% จาก 495.0 บาท มาอยู่ที่ 456.0 บาท ทั้งนี้ ด้วย upside ที่จำกัดต่อราคาเป้าหมายใหม่ จึงปรับลดคำแนะนำ SCC ลงเป็น “ถือ” จาก “ซื้อ”

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X