การระบาดของโควิด-19 วนเวียนเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทย และทั่วโลกเป็นเวลามากกว่า 1 ปีแล้ว แม้จะมีช่วงดรอปลงไป ทำให้กิจการต่างๆมีโอกาสฟื้นตัวได้บ้าง แต่การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ไม่ว่าจะสายพันธุ์อัลฟ่า, เบต้า และเดลต้า กลับทำให้สถานการณ์โควิด-19 ในปี 64 แย่ลงกว่าเดิม นำไปสู่การใช้มาตรการควบคุมขั้นสูงสุดอีกครั้ง

แน่นอนว่าหลายบริษัท ได้รับผลกระทบด้านการดำเนินงาน จากการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และในวันนี้ เราจะวิเคราะห์อีก 1 ในหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนทำให้เกิด Sentiment ลบต่อราคาหุ้น และเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงมาระยะหนึ่งแล้ว นั่นคือ หุ้นของ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา หรือ CENTEL

CENTEL ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับโรงแรมโดยมีแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ Centara, Centra และ Cosi รวมไปถึงร้านอาหาร ได้แก่ KFC, Pepper Lunch, Mister Donutและอีกหลายแบรนด์ที่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภค โดยมีรายได้หลักจากธุรกิจร้านอาหาร (ถึงแม้จะอยู่ในหมวดธุรกิจการท่องเที่ยว) ซึ่งการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบเข้ามาที่ธุรกิจโรงแรมเป็นอันดับแรก เนื่องจากนักท่องเที่ยวลดลง การใช้บริการโรงแรมจึงลดลงตามมา

การระบาดที่รุนแรงในช่วงครึ่งแรกของปี 64 นำไปสู่การใช้มาตรการควบคุมขั้นสูงสุด ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล 6 จังหวัด และอีก 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และที่เพิ่มเข้ามาอีก 3 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และชลบุรี โดยกำหนดให้พื้นที่เหล่านี้เป็นสีแดงเข้ม และมีข้อกำหนดสำคัญ ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ CENTEL โดยตรง เช่น

1. ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ห้ามทานในร้าน ใช้วิธี Take Away เท่านั้น และเปิดได้ถึง 20.00 น.

2. โรงแรมให้งดการจัดเลี้ยง และสัมมนา

ส่วนข้อกำหนดอื่นๆ อาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อ CENTEL แต่ไม่มากเท่ากับ 2 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น ในข้อแรก ถึงแม้ว่าร้านอาหารจะเปิดให้บริการ แต่การกำหนดให้ Take Away เพียงอย่างเดียว ย่อมทำให้ความต้องการบริโภคมีแนวโน้มลดลง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้รายได้จากการขายมีแนวโน้มลดลงตามมา ส่วนข้อ 2 เป็นผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรม เพราะรายได้ของธุรกิจโรงแรม นอกจากจะมีในส่วนที่เป็นการเข้าพักของนักท่องเที่ยวแล้ว การจัดงานเลี้ยง หรืองานสัมมนาก็เป็นรายได้ที่สำคัญเช่นกัน การให้งดจัดงานเลี้ยงและสัมมนา ทำให้รายได้ในส่วนนี้ของ CENTEL มีโอกาสลดลง

ทั้งนี้ ในปี 63 ที่ผ่านมา การระบาดทำให้ภาพรวมการดำเนินงานของ CENTEL เริ่มเป็นลบ ตั้งแต่ Q2 เป็นต้นมา ด้านรายได้ลดลงจากปี 62 ทั้งรายได้จากธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจโรงแรม เมื่อหักต้นทุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ทำให้การดำเนินงานปกติปี 63 มีผลขาดทุน1,551 ล้านบาท จากปี 62 ที่มีกำไรสุทธิมากถึง 1,721 ล้านบาท

แต่ในภาพรวมของ EBITDA ปี 63 ของ CENTEL ยังถือว่าเป็นบวกอยู่ที่ 1,981 ล้านบาท เทียบกับ EBITDA ปี 62 จำนวน 4,298 ล้านบาท ลดลง -54% YoY การลดลงของ EBITDA สะท้อนถึงการดำเนินงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แม้ว่าตัดผลกระทบจากค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีออกไปแล้วก็ตาม

และในปี 64 เราคาดว่าภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ CENTEL จะยังอยู่ในแนวโน้มเป็นลบเช่นเดียวกับปี 63 แต่ผลกระทบจะเห็นชัดขึ้นในผลการดำเนินงาน Q3ตามการใช้มาตรการควบคุมขั้นสูงสุด ส่วนในมุมของราคาหุ้น ที่สะท้อนผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ไปส่วนหนึ่งแล้ว เรามีมุมมองและคำแนะนำอย่างไร หากนักลงทุนต้องการเปิดสถานะใน Single Stock Futures ของ CENTEL

ราคาหุ้น CENTEL เคลื่อนไหวในกรอบ 28.50 – 31 บาท จากกรอบนี้ เราแนะนำให้เปิดสถานะ Short ตามแนวโน้มขาลง และปัจจัยลบที่เข้ามาซัพพอร์ตแนวโน้มขาลง โดยมี 2 จุดด้วยกัน คือ การรีบาวนด์ขึ้นไปที่ 30 บาท หรือการหลุด 28.50 บาท โดยมีจุด Stop Loss ต่างกันที่ 32 บาท และ 30 บาทตามลำดับของจุดเปิดสถานะ

หมายเหตุ: ราคาหุ้น ณ วันที่ 21 ก.ค. 64

ที่มา : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1