ทันหุ้น -SCM จับมือ ม.นเรศวร พัฒนาสินค้ากัญชง ประเดิมผลิตภัณฑ์ตัวเด่น “ครีมบำรุงผสมกัญชง” เร็วๆนี้ พร้อมปรับกลยุทธ์สู้โควิด-19 เดินหน้ากระตุ้นยอดขาย และยอดการซื้อของสมาชิก เพื่อผลักดันผลงานให้โตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขยายตัว 15%ในปี นี้ ส่วนไตรมาส 2 มั่นใจโตตามเป้า

นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประทศในลักษณะเครือข่ายขายตรง เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งหนึ่งในนั้นมี ครีมบำรุงผสมกัญชงโดยเตรียมเซ็นบันทึกความเข้าใจ( MOU) ร่วมกับทางมหาวิทยาลัยนเรศวร

โดยมีบริษัทย่อยของบริษัท เอสซีเอ็ม อินโนเวทีฟ จำกัด หรือ  SMI ผู้ประกอบธุรกิจเป็นโรงงานผลิต และศูนย์วิจัยและพัฒนา อาหารเสริมให้กับ SCM จะรับผิดชอบในส่วนของกระบวนการผลิต ส่วนมหาวิทยาลัยนเรศวรจะรับผิดชอบในส่วนของต้นน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลูกการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์  ส่วนบริษัทเองจะรับผิดชอบในเรื่องของการจัดจำหน่าย

SCM เป็นผู้ประกอบการเกี่ยวเนื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และสินค้าใช้ภายในครัวเรือนอยู่แล้ว ทำให้บริษัทมีความสนใจในการเดินหน้าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวพันกับกัญชง ทั้งเครื่องสำอาง และครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ CBD จากกัญชง รวมไปถึงอาหารเสริมต่างๆ เพิ่มเติม ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการยื่นเรื่องของใบอนุญาตจากทาง อย. ไปแล้ว และอยู่ระหว่างการรออนุมัติ ซึ่งเบื้องต้นบริษัทก็มีความคาดหวังว่าภายในช่วงกลางปี 2564นี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

ปัจจุบันบริษัทมีการวางแผน และพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกัญชงแล้ว 3 รายการ ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์สกิลแคร์ 2 รายการ ได้แก่ เซรั่มกัญชง และครีมกัญชง และผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม 1 รายการ คือ ชากัญชง เป็นต้น โดยบริษัทวางแผนว่าผลิตภัณฑ์สกิลแคร์ จะสามารถวางจำหน่ายได้ภายในช่วงไตรมาส 3/2564 ขณะที่ผลิตภัณฑ์ชากัญชง คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงไตรมาส 4/2564 เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทได้มีการทดลองผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าวไปแล้ว และพบว่ามีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

นายนพกฤษฏิ์  กล่าวต่อไปว่า สำหรับการดำเนินงานภายใต้สถานการณ์โควิด -19ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับปรุงกลยุทธ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลความปลอดภัยของบุคลากร และ การบริหารเงินสด และค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภา โดยาไตรมาส2/2564 ยังคงเติบโตได้ตามเป้าหมาย เช่นเดียวกับปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 15% ผ่านกลยุทธ์

ทั้งนี้บริษัทมีแผนกระตุ้นยอดขาย โดยเน้นทำตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม (Niche market) และเพิ่มยอดค่าเฉลี่ยการซื้อของสมาชิกเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันตัวเลขสมาชิกอยู่ประมาณ 120,000 คนทั่วประเทศไทย รวมถึงการสร้างขวัญกำลังใจให้ทีมงานออนไลน์ เพื่อผลักดันการเติบโตให้ถึงเป้าหมาย

สำหรับงบการเงินงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 รายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านนักธุรกิจในงวดสำ หรับไตรมาสที่ 1 ปี 2564 เพิ่ม ขึ้น 54 ล้านบาท หรือคิดเป็น 27% โดยมีสำเหตุหลักมาจากยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากการเพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเน้นกลุ่มผู้บริโภครายใหม่ในด้านดูแลสุขภาพ และผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้บริษัทจัดกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการบริโภคของลูกค้า ในส่วนของกำไรสุทธิอยู่ที่ 36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 260% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10 ล้านบาท