> SET > TK

08 มิถุนายน 2021 เวลา 18:04 น.

TK พับแผนลงทุนเมียนมา เดินหน้ากดNPLต่ำกว่า8%

ทันหุ้น - TK แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปีดีกว่าครึ่งปีแรก หากเปิดประเทศต่างชาติท่องเที่ยวได้ รับ NPL ทรงตัวสูงกว่า 8%มองเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศทีชะลอตัวลง พับแผนไมโครไฟแนนซ์ ในเมียนมา หลังการเมืองยังไม่นิ่ง เล็งศึกษาการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องทั้งในและต่างประเทศ อวดกระแสเงินสดแกร่ง


นายประพล พรประภา กรรมการ และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2564จะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นกว่าทั้งเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และเมื่อเทียบกับช่วง 6เดือนแรกของปี 2564โดยหากว่าภาครัฐสามารถกระจายวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ได้รวดเร็วและขยายเป็นวงกว้างได้ตามแผนที่วางไว้ ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร รถเช่า บริการเรือ และอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ รวมถึงแผนการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศได้


กดNPLต่ำ8%

สำหรับหนี้สงสัยจะสูญ (NPL) ณ สิ้นไตรมาส 1/2564 อยู่ที่ระดับ 8.2% ซึ่งเป็นกลุ่มลูกหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือน โดยมองว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับสภาวะเศรษฐกิจโดยเฉพาะในประเทศที่มีการชะลอตัวลงจากการแพร่ะระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เชื่อว่าจากการปรับโครงสร้างภายในองค์กรใหม่ และรูปแบบการเรียกชำระใหม่จะทำให้เฉลี่ยทั้งปีจะรักษาระดับได้ต่ำกว่า 8% ได้


อย่างไรก็ดีหากว่าในช่วงครึ่งหลังปีการกระจายวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เป็นไปตามแผน และเปิดประเทศท่องเที่ยวได้ ก็เชื่อว่าความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้จะกลับมาอยู่ในระดับที่ดีได้ ขณะที่พอร์ตสินเชื่อคงค้างในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4,780 ล้านบาท และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังยอดปล่อยสินเชื่อใหม่โดยเฉพาะสินเชื่อรถจักรยานยนต์จะขยายตัวเพิ่มขึ้น


เงินสดแกร่ง

ส่วนแผนการลงทุนในปี 2564 บริษัทยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ที่เป็นนัยสำคัญ และยังไม่มีแผนเพิ่มสาขาใหม่ในประเทศในปีนี้ ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 75 สาขา ครอบคลุมใน 57 จังหวัด ด้านสถานการณ์ในกัมพูชาต้องยอมรับว่าวิกฤตโรคระบาดระรอก 2 มีผลกระทบทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ แต่ในช่วงเริ่มมีการผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ปัจจุบันบริษัทมีการขยายสาขาในกัมพูชาจำนวน 12 สาขา ในปีนี้ยังคงการให้บริการไว้เช่นเดิมแล้วยังไม่มีการเพิ่มสาขาใหม่จนกว่าสถานการณ์แพร่ระบาดจะดีขึ้น


ล่าสุดบริษัทได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งชาติของ สปป.ลาว ในการเพิ่มสาขาใหม่อีก 3 แห่ง เป็น 6 สาขา จากเดิมที่มีการให้บริการอยู่แล้ว 3 สาขา ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการได้ 2-3 แห่ง สำหรับความคืบหน้าในการเข้าซื้อกิจการของ เอ็มเอฟไอเอล (Myanmar Finance International Limited) หรือ MFIL ผู้ให้บริการสินเชื่อในเมียนมาทั้งหมด 100% โดยจะใช้งบประมาณ 400 ล้านบาทนั้น ปัจจุบันได้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมือง แต่ยังคงมีการติดตามสถานการณ์กับทางพันธมิตรอยู่ตลอด หากปัญหาคลี่คลายบริษัทก็พร้อมเดินหน้าลงทุนต่อ


ขณะเดียวกัน ณ สิ้นไตรมาส 1/2564บริษัทมีกระแสเงินสดที่ได้จากผลการดำเนินงานอยู่ที่ 1,607 ล้านบาท มองว่ายังคงมีความแข็งแกร่งและเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจและรองรับการลงทุนใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นตามโอกาสและความเหมาะสม ซึ่งในปัจจุบันบริษัทยังคงมีความสนใจในการเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก ที่ผ่านมามีทั้งผู้ประกอบการในไทยและต่างประเทศเข้ามาเสนอบ้างแล้ว แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาการลงทุนอีกระยะหนึ่ง

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X