ทันหุ้น - UAC ปี66 ปรับเป้ารายได้ลงเหลือ 3 พันล้านบาท จากเดิม 5 พันล้านบาท โดยแผนงานยังคงเน้นรักษาวินัยทางการเงิน และสภาพคล่อง ขณะที่รายได้ปี 2564 ยังมั่นใจโตกว่าปีก่อน พร้อมแรงหนุนจากบริษัทร่วมทุน BBFที่ ให้ปันผลในที่ดี เดินหน้าประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน 6 โครงการ คาดชัดเจนสิ้นปีนี้

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้าหมายการเติบโตของปี 2566 ใหม่จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 5,000 ล้านบาท เหลือ 3,000 ล้านบาท ใกล้เคียงปี 2562 เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อบริษัทในปี 2563 ค่อนข้างมาก ทำให้การขยายธุรกิจมีความยากลำบาก

ดังนั้นแผนงานของบริษัทจึงยังคงเน้นรักษาวินัยทางการเงิน รักษาสภาพคล่อง ขณะเดียวกันจะคงอัตราผลตอบแทนในส่วนของผู้ถือหุ้น ROE ให้มากกว่า 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 18.5% เป้าหมายกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2564 มากกว่า 20% โดยมีแผนงานที่เน้นธุรกิจพลังงานทางเลือก หรือพลังงานทดแทนมากขึ้น

นายชัชพล กล่าวว่า ในส่วนของธุรกิจเทรดดิ้งที่มุ่งเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน ด้วยการขายสินค้ และผลิตภัณฑ์ให้กับ โรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกแก๊ซธรรมชาติ และปิโตรเคมี เป็นต้นนั้น มองว่ายังคงสามารถเติบโตได้ที่ 5-10% ในขณะที่ปั 2563 ลูกค้าในกลุ่มนี้มีการชะลอคำสั่งซื้อไปจำนวนมาก จากการลดกำลังการผลิต ซึ่งปัจจุบันทิศทางเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติแล้วแม้จะยังไม่ 100% ก็ตาม

UAF ยังเตรียมรับรู้กำไรจากบริษัทร่วมทุน อย่าง บริษัท บางจาก ไบโอฟูเอล จำกัด หรือ BBF ในไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้  คาดว่ามีโอกาสที่จะปันผลออกมาเพิ่มเติมอีก 100-200 ล้านบาท เนื่องจาก BBF มีกำไรสะสมอยู่มากกว่า 1,000 ล้านบาทขณะที่ไตรมาส 2/2564 ได้รับรู้ปันผลจำนวน 119.92 ล้านบาท 

  นอกจากนี้ยังมองหาธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะเป็น New S-CERVE าทิเช่น ผลิตภัณฑ์สารปรับปรุงดินที่เหลือจากการผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้า อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ,ผลิตภัณฑ์ช่วยเร่งปฏิกิริยาการผลิตไบโอดีเซล ,ผลิตภัณฑ์ที่ได้สารสกัดน้ำมันปาล์ม อาทิ วิตามินอี โอเมก้า 6 และสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV)

ในส่วนของการนำบริษัทย่อย คือ บริษัท ยูเอซี แอ็ดวานซ์โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคัลส์ (UAPC) เข้าจดทะเบียนในตลาด mai บริษัทยังคงยืนยันที่จะสามารถดำเนินการได้ในปี 2565 หากสถานการณ์ต่างๆปรับตัวดีขึ้น และไม่มีผลกระทบด้านอื่นๆเข้ามาใหม่

ประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน

ล่าสุดบริษัทได้ยื่นประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากหมด 6 โครงการ คาดว่าในวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 หน่วยงานภาครัฐจะมีการประกาศรายชื่อผู้ข้อเสนอทางเทคนิค ซึ่งหากไม่มีเหตุการณ์ล่าช้าภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ก็จะเริ่มลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA)

ส่วนโครงการ Vientiane Waste Management (VWM) ระบบคัดแยกขยะเพื่อผลิตพลังงานทดแทนและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ที่นำกลับมาใช้ใหม่ ตังอยู่ที่สาธารณรัฐประชาชาธิปไตยประชาชนลาว มีกำลังการผลิตประมาณ 200 ตัน ปัจจุบันความคืบหน้าโครงการอยู่ประมาณ 98% คาดเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 2/2564 และเดินหน้าก่อสร้างเฟสที่ 2 โดยกำลังการผลิตที่ 200 ตัน เช่นเดียวกัน

มั่นใจโตต่อในปี64

สำหรับรายได้ในปี 2564 บริษัทมั่นใจว่าจะเติบโตกว่าปี 2563 ที่มีรายได้1,293 ล้านบา ส่วนทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 2/2563 เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทมองว่าหากแก้ปัญหาด้าน โควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว ธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริโภคในประเทศ (Domestic consumption) น่าจะกลับมาเติบโตได้ซึ่งยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูต่อไป