ทันหุ้น - TPOLY เล็งศึกษาขยายไลน์ก่อสร้างเกี่ยวเนื่องระบบน้ำ หวังกระจายความเสี่ยงพอร์ตงานก่อสร้างที่ชะลอตัวตามภาวะอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ ล่าสุดคว้า 2 งานใหม่หนุนงานในมือทะลุ 2.9 พันล้านบาท ยันไม่ห่วงยอดขาย-แบ็กล็อกโตตามเป้า

นายปฐมพล สาวทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY เปิดเผยว่าบริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายไลน์การให้บริการงานก่อสร้างเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะการรับงานที่เกี่ยวเนื่องกับระบบน้ำประปา ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น นิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น โดยที่ผ่านมามีการเจรจาไปบ้างแล้ว คาดว่าปลายปี 2564 จะได้เห็นข่าวดี ซึ่งแผนการดำเนินงานในปีนี้ยังคงมุ่งเน้นในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตงานรับเหมาก่อสร้าง รวมถึงมองหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเข้ามาช่วยสร้าง New S-curve ให้กับกลุ่มบริษัท

ทั้งนี้คาดว่าภาวะอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างยังชะลอตัว โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน จนกว่าปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะได้รับการแก้ไข  ส่วนภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในช่วงที่ผ่านมา กดดันให้อัตรากำไรของอุตสหกรรมรับเหมาก่อสร้างลดต่ำลงอย่างมาก และส่งผลถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ซึ่งนอกจากจะเป็นไปตามสภาวะตลาด ยังมีปัจจัยมาจากต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างหลักปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563

แบ็กล็อกตามเป้า

ส่งผลกระทบต่อต้นทุนต่อโครงการที่เป็นงานในมือ (Backlog) คงค้างซึ่งใช้ราคาต้นทุนในช่วงปี 2562-2563 แม้ว่าบริษัทจะมีการบริหารต้นทุนโครงการโดยการจองซื้อล่วงหน้า แต่ก็ไม่สามารถครอบคลุมได้ทั้งหมด ทั้งในด้านระยะเวลาและปริมาณ อย่างไรก็ดีแผนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุดภายในสิ้นปี 2564 ของภาครัฐ น่าจะเป็นปัจจัยหลักในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจในภาพรวมกลับมาเติบโตได้ ทำให้ภาคเอกชนมีความมั่นใจที่จะลงทุนในโครงการก่อสร้างได้ในช่วงปลายปี 2564 ซึ่งบริษัทยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานในงานโครงการที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของยอดขาย และการเติบโตของ Backlog

ล่าสุดบริษัทได้รับงานก่อสร้างใหม่ 2 โครงการ ประกอบด้วยโครงการเซ็นทรัลพลาซา จันทบุรี ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน)หรือ CPN มีมูลค่าโครงการ 464 ล้านบาท เป็นงานก่อสร้างงานโครงสร้างและสถาปัตยกรรม มีระยะเวลาก่อสร้าง 383 วัน และงานก่อสร้างอาคารหอพักนักศึกษาแพทย์และแพทย์ใช้ทุน จำนวนไม่น้อยกว่า 600 ยูนิต โดยมีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นเจ้าของโครงการ มีมูลค่าโครงการ 427 ล้านบาท ส่งผลให้ Backlog ปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ยกว่า 2.9 พันล้านบาท รักษาระดับได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 2.9-3 พันล้านบาท

ลุยต่อโรงไฟฟ้า

ขณะที่ธุรกิจไฟฟ้าในปี 2564 มองว่ายังคงมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน เพราะในปีนี้จะมีการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ (COD) โรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น คาดว่าจะสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการลงทุนเพิ่ม นอกจากนี้บริษัทสนใจที่จะลงทุนด้านพลังงานโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันโครงการ Greenwich Prime หทัยราษฎร์มูลค่าโครงการ 370 ล้านบาท ขนาดโครงการ 20 ไร่ แบบบ้านเดี่ยว 94 ยูนิต มีการขายโอนไปแล้วจนถึง 31 มีนาคม 2564 จำนวน 89 ยูนิต เฉพาะในไตรมาส 1/2564 มีการขายโอน จำนวน 1 ยูนิต คงเหลือรอขาย 5 ยูนิต มีความคืบหน้าของยอดขายไปแล้วกว่า 95%คาดว่าจะสามารถจบโครงการไดšภายในปี 2564 สำหรับโครงการใหม่ ย่านถนนลำลูกกาคลอง 7 บนเนื้อที่ประมาณ 34 ไร่ ตอนนี้ดำเนินการปรับพื้นที่แล้วเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการปรับแบบให้สมบูรณ์ ซึ่งจะมีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ช่วงต้นปี 2565

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1