> SET > SPCG

17 พฤษภาคม 2021 เวลา 08:45 น.

SPCGยันกำไรต่อเนื่อง ปีนี้รายได้โตไม่ต่ำ10%

ทันหุ้น –SPCG ผลงานทำกำไรได้ต่อเนื่อง หลังไตรมาสแรกมีกำไร 782.3 ล้านบาท จากรายได้ลดลง รับผลกระทบวิกฤตโควิด-19ทำให้ลูกค้าชะลอการติดตั้งโซลาร์รูฟ มั่นใจผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ยังเติบโต พร้อมปรับแผนการตลาดโดกยรายได้เพิ่ม ย้ำทั้งปี 2564 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 10%


ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2564 มีรายได้รวมจากการขายและให้บริการราว 1,172.7 ล้านบาท ลดลง 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 1,454.7 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 782.3 ล้านบาท ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรอยู่ 837.8 ล้านบาท


เนื่องจากรายได้ปรับตัวลงเป็นผลจากเงินอุดหนุนส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) จำนวน 8 บาทต่อหน่วยของ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (สกลนคร 1) จำกัด ที่มีกำลังผลิตราว 7.46 เมกะวัตต์ (ซึ่งเป็น 1 ใน 36โซลาร์ฟาร์มของบริษัท) ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ทั้งๆ ที่ โครงการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าได้ 105.1 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 3.2 ล้านหน่วย จากปี 2563 ที่ทำได้ (101.9 ล้านหน่วย) หรือเพิ่มขึ้น 3% อย่างไรก็ตามแม้ค่าแอดเดอร์จะหมดไป แต่บริษัทยังคงได้รับรายได้จากการขายไฟในอัตราค่าไฟฐาน (Base Tariff) ตามปกติ


*รายได้ปีนี้โต 10%


ขณะที่ธุรกิจSolar Roof มีรายได้ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและผลกระทบต่อเนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้าชะลอการลงทุนติดตั้ง Solar Roof ดังนั้นบริษัทจึงปรับแผนงานขายและกลยุทธการตลาดใหม่ ให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ โดยเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น


ในขณะเดียวกัน SPCG ยังคงเดินหน้านโยบายปรับลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการต้นทุนด้านต่างๆ ส่งผลให้ต้นทุน O&M (Operating & Maintenance) สำหรับธุรกิจโซลาร์ฟาร์มทั้งในปัจจุบันและอนาคตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างสภาพคล่องและรักษากำไรของบริษัท โดยในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตราว 10% หรือประมาณ 5,500 ล้านบาท นอกจากนั้นบริษัทยังเดินหน้าทุกโครงการอย่างต่อเนื่องทั้งโซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์รูฟ ซึ่งในไตรมาส 2 นี้ ลูกค้าให้ความสนใจพร้อมติดตั้งผลิตภัณฑ์ของบริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด (SPR)


*เดินหน้าโครงการตามแผน


สำหรับโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่น มีความคืบหน้ามาก โดยเฉพาะโครงการ Tottori Yonago Mega Solar Power Plant กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ ได้ผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2561และบริษัทได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลไปแล้ว 3 งวด หรือ 3 ปีติดต่อกัน ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะเมื่อปี 2563ที่ผ่านมา ได้รับประมาณ 16.4 ล้านบาท และมั่นใจว่าปีนี้ยังคงได้รับผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่องต่อไป


ด้านโครงการโซลาร์ฟาร์ม Ukujima Mega Solar Project ขนาดกำลังการผลิตรวม 480 เมกะวัตต์ SPCG ถือหุ้น 17.92% ยังเดินหน้างานก่อสร้างตามปกติ แม้จะล่าช้าไปบ้างในช่วงวิกฤตโควิด แต่ปัจจุบันทางญี่ปุ่นได้เร่งเดินหน้างานก่อสร้าง และน่าจะเริ่ม COD ได้ราวไตรมาส 3/2566 ตามแผนงานเดิม ส่วนเงินทุนงวดที่ 3 ที่จากตามกำหนดการเดิมจะต้องใส่เข้าไปราวสิ้นปีที่แล้ว บริษัทยังยืนยันที่จะใส่เงินทุนงวด 3ตามสัญญาความก้าวหน้าโครงการ


อย่างไรก็ตาม SPCG ในฐานะผู้บุกเบิกและผู้นำธุรกิจด้านพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ บริษัทยังคงมุ่งมั่นรักษาสิ่งแวดล้อม และเดินหน้าช่วยลดสภาวะโลกร้อนเทียบเท่ากับลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศของโลกประมาณ 200,000 ตัน CO2 ต่อปี จากการดำเนินงานโซลาร์ฟาร์ม 36 โครงการ รวมกำลังการผลิตกว่า 260 เมกะวัตต์


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X