> SET > OSP

14 พฤษภาคม 2021 เวลา 12:03 น.

OSP โกยกำไร Q1/64 ที่ 1 พันลบ.ทำนิวไฮ, ดีกว่าโบรกฯ คาด

ทันหุ้น-OSP โชว์ศักยภาพการดำเนินงานไตรมาส 1/64  สร้างนิวไฮทั้งยอดขายและกำไร แม้ต้องเผชิญการระบาดของโควิด-19 โดยมีรายได้รวมจากการขาย 6,776 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่น ปรับการดำเนินงานและกลยุทธ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ ย้ำชัดยืนหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริงก์ในประเทศไทย ขณะที่ตลาดต่างประเทศยังเติบโตเป็นเลข 2 หลัก 


นายธนา ไชยประสิทธิ์ รักษาการ CEO บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศเปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาส 1/64 แม้ธุรกิจยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ด้วยการบริหารธุรกิจที่ยืดหยุ่น สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันเหตุการณ์ รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนภายใต้โครงการ Fit Fast Firm ที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถรับมือกับปัจจัยลบที่เกิดขึ้นได้ดี ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ทำนิวไฮที่ 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 


จากการสร้างความแข็งแกร่งของตราสินค้าในพอร์ตอย่างต่อเนื่อง พร้อมแผนการตลาดที่เน้นสร้างความผูกพันกับลูกค้า ทำให้สินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มบำรุงกำลังยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาด 54.9% โดยมีแบรนด์เอ็ม-150 เป็นเบอร์ 1 ในตลาดรวม ในขณะที่แบรนด์โสมอินซัมซึ่งมีสินค้าใหม่ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรก็สามารถสร้างการเติบโตได้เป็นอย่างดี สำหรับเครื่องดื่มในกลุ่มฟังก์ชันนอลดริงก์นั้น แบรนด์ซีวิทยังคงรักษาความเป็นผู้นำตลาดและการเติบโต จากการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น ผลักดันให้มีส่วนแบ่งการตลาด 34.9%  


ในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มดีขึ้น ทำให้มีการขยายตัวอย่างโดดเด่น โดยเติบโต 11.6% สำหรับตลาดในประเทศเมียนมาร์นั้น หลังจากเปิดโรงงานผลิตเครื่องดื่มในเมียนมาร์ในปีที่ผ่านมา รวมถึงการมีพันธมิตรทางธุรกิจและทีมบริหารในเมียนมาร์ที่มีความเข้าใจตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้มีความยืดหยุ่น สามารถปรับการดำเนินงานและกลยุทธ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ สามารถตอบสนองความต้องการของตลาด จึงสามารถรักษายอดขายและการเติบโต แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติทั้งการระบาดของโควิด-19 และด้านการเมือง 


“ในไตรมาสแรกปีนี้ยังมีการระบาดของโควิด-19 แต่ด้วยศักยภาพการดำเนินธุรกิจของโอสถสภาที่มีแผนบริหารจัดการที่ชัดเจน ทั้งการนำจุดแข็งของแบรนด์พอร์ตโฟลิโอเข้าไปช่วยสร้างการเติบโตให้แก่ยอดขายกลุ่มเครื่องดื่ม เครือข่ายช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแรง การปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตภายใต้โครงการ Fit Fast Firm ที่ดีต่อเนื่อง ทำให้เราประสบความสำเร็จในการผลักดันยอดขายและกำไรสุทธิด้วยตัวเลขนิวไฮ แม้มีปัจจัยลบในตลาดก็ตาม” นายธนา กล่าว


ส่วนแผนงานในไตรมาส 2/64 บริษัทฯ ยังมุ่งตอกย้ำใช้จุดแข็งด้านแบรนด์พอร์ตโฟลิโอมาช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ เน้นการตลาดที่ตอบสนองพฤติกรรมการบริโภคในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพและอยู่บ้านมากขึ้น อาทิ  การออกบรรจุภัณฑ์ขนาด 1 ลิตรของแบรนด์ซีวิท 


นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นสร้างความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ เพื่อผลักดันการเติบโตและสร้างธุรกิจในอนาคต โดยจับมือกับพันธมิตรอย่างยันฮี วิตามิน วอเตอร์ เพื่อขยายตลาดเครื่องดื่มวิตามิน ตอบโจทย์กระแสการดูแลใส่ใจสุขภาพ และร่วมลงทุนพัฒนาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสมุนไพร รวมถึงสารสกัดจากกัญชา กัญชง (CBD) 


และยังสร้างมิติใหม่ทางการตลาดด้วยการผนึกกำลังของผู้นำจากสองวงการแต่มีจุดเชื่อมโยงคือกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน โดยเอ็ม-150 และปูนตราเสือ ได้ร่วมกันออกแคมเปญ “ฮึดสู้อย่างเสือ หัวใจเกินร้อย” เจาะกลุ่มช่าง ผู้รับเหมา ด้วยเครื่องดื่ม เอ็ม-150 กระชายดำผสมน้ำผึ้ง X ปูนตราเสือ รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น พร้อมของพรีเมียมที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ รวมถึงการผูกแคมเปญเข้ากับแพลทฟอร์มแต้มเอ็ม การร่วมมือทางธุรกิจดังกล่าว เป็นการนำจุดแข็งของโอสถสภาและพันธมิตรมาสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน เพื่อตอบสนองความต้องการด้านใหม่แก่ผู้บริโภคและขยายไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต 


**กำไรดีกว่าโบรกฯ คาด 


บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่ากำไรไตรมาส 1/64 ของ OSP ที่ 1,004 ล้านบาท ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาด 7% หลักๆ มาจากรายได้อื่นโตเป็น 346 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดไว้ที่ 290 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากเงินปันผลรับจาก Unicharm


ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/64 คาดว่ากำไรสุทธิยังไม่เด่นจะทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/64 จากไม่มีการรับรู้รายได้เงินปันผล Unicharm และรับผลกระทบจากโควิด-19 ระบาดระลอก 3 อย่างไรก็ตามเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบดังกล่าวไปแล้ว ปัจจุบันหุ้นซื้อขายพี/อี เรโชปี 2564 ที่ 27.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ในขณะที่ฝ่ายวิจัยยังคงให้น้ำหนักว่ากำไรสุทธิจะฟื้นตัวในครึ่งหลังของปีนี้ หลังกระจายวัคซีนมากขึ้น ธุรกิจในพม่าจะค่อยฟื้นตัวและรายได้ C-vitt จะเริ่มเห็นผลบวกจากช่องทางการจำหน่ายที่ผ่านร้านค้าดั้งเดิมมากขึ้น จึงคาดว่ากำไรสุทธิทั้งปี 2564 จะอยู่ที่ 3.8 พันล้านบาท เติบโต 8% ดังนั้นจึงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 42 บาทต่อหุ้น 


ราคาหุ้น OSP ช่วงเที่ยงเคลื่อนไหวอยู่ที่ 35.00 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 2.19% มีมูลค่าการซื้อขาย 203.31 ล้านบาท 

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X