ทันหุ้น - BANPU มองภาพรวมธุรกิจจากนี้แนวโน้มดี อัดฉีดงบ 200-300 ล้านเหรียญฯ ลงทุนโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เผยยังมีโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ด้านโบรกชี้ราคาถ่านหินยังฟื้นตัวได้ต่อ ส่วนธุรกิจก๊าซยังเติบโตได้จากแหล่งใหม่หนุนปริมาณขาย  เคาะราคาพื้นฐาน 13.50 บาท

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ประเมินภาพรวมธุรกิจหลังจากนี้คาดว่ายังคงมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินงานและการปรับพอร์ตธุรกิจที่วางไว้ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ความผันผวนของระบบเศรษฐกิจโลก แต่บริษัทมีการตื่นตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ อยู่ตลอดเวลา โดยให้ความสำคัญต่อการดำเนินมาตรการต่างๆ ตามแผนกลยุทธ์ทั้งการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพการผลิต การนำเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลเข้ามาผสมผสานเพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ตลอดจนการควบคุมบริหารจัดการต้นทุนให้อยู่ในระดับที่ดี และสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานในปี 2564 บ้านปูยังคงเน้นลงทุนในธุรกิจที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ Greener & Smarter ต่อไป ซึ่งได้พิจารณาการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในส่วนนี้จะรวมถึงโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น โรงไฟฟ้า IGCC โครงการ Nakoso ที่เพิ่งปิดดีลไป นอกจากนี้ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาลงทุนภายใต้ "บ้านปู เน็กซ์" โดยงบลงทุนเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 200-300 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของสินทรัพย์ สัดส่วนการถือหุ้น และโอกาสในแต่ละช่วงเวลา

ยอดขายหนุน

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิที่ 51 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาตลาดถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลดีต่อภาพรวมกลุ่มบริษัท รวมถึงรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นผลมาจากการอ่อนค่าของเงินบาทต่อเหรียญฯ

ขณะที่รายได้จากการขายรวมในไตรมาส 1/2564 อยู่ที่ 735 ล้านเหรียญฯ (เทียบเท่า 22,262 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 102 ล้านเหรียญฯ เมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รายได้จากธุรกิจถ่านหินลดลง 63 ล้านเหรียญฯ เป็นผลมาจากการลดลงของปริมาณขายถ่านหิน จำนวน 1.66 ล้านตัน และมีราคาขายเฉลี่ยของถ่านหินที่เพิ่มขึ้น 4.28เหรียญฯต่อตันเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ส่วนรายได้จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 186ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 168 ล้านเหรียญฯ ซึ่งรวมรายได้จากการเข้าทำสัญญาแบ่งกำไรกับบริษัทผู้ทำการตลาดก๊าซในระหว่างไตรมาส ทำให้สามารถรับรู้รายได้จากสัญญาดังกล่าว จำนวน 49 ล้านเหรียญฯ เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่หนาวจัดทำให้ราคาก๊าซพุ่งสูงขึ้น ด้านธุรกิจไฟ้า ไอน้ำ และอื่นๆ ของ 3 โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในประเทศจีน จำนวน 60 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 8 ล้านเหรียญฯ เป็นต้น

ถ่านหินฟื้น-ก๊าซโต

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ภายหลังจากที่ BANPU ประกาศกำไร 1.5 พันล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากไตรมาส1/2563 มีกำไร FX มากกว่าไตรมาส 1/2564มาก หากไม่รวมรายการพิเศษนี้ BANPU พลิกจากขาดทุนปกติที่ 1.6 พันล้านบาท มาเป็นกำไรปกติที่ 792 ล้านบาท โดยธุรกิจถ่านหินมี EBIT ดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ทั้งๆ ที่ ราคาถ่านหินเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน แม้ปริมาณขายลดลงเนื่องจากการผลิตที่ออสเตรเลียลดลงจากปัญหาทางธรณีวิทยาของเหมือง แต่การขายที่โดดเด่นที่อินโดนีเซียช่วยหนุนธุรกิจถ่านหิน

ขณะที่ธุรกิจไฟฟ้าลดลงจากต้นทุนเชื้อเพลิง-ถ่านหินเพิ่ม อย่างไรก็ดี EBIT ธุรกิจก๊าซดีมาก พลิกจากติดลบ 496 ล้านบาท เป็นเพิ่มขึ้น 2.4 พันล้านบาท จากยอดขายและ Margin ที่ดี ซึ่งเป็นผลจากแหล่งใหม่ที่ซื้อเข้ามาเมื่อปีก่อน ภาพรวมการดาเนินงานกลับมาทำกำไรตามที่ตลาดคาดหมาย

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายวิจัยเชื่อว่าแนวโน้มยังดีต่อเนื่อง ราคาถ่านหินยังฟื้นตัวได้ต่อ และปัญหาการผลิตน่าจะไม่มีในไตรมาส 2/2564ขณะที่ธุรกิจก๊าซยังเติบโตได้จากแหล่งใหม่หนุนปริมาณขาย พร้อมกับกาลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ลดผลกระทบต้นทุนพลังงานเพิ่มขึ้น ดังนั้น ทางฝ่ายประเมิน ราคาพื้นฐาน 13.50บาท

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1