> SET > STGT

10 พฤษภาคม 2021 เวลา 08:15 น.

STGTวันนี้เทรดสิงคโปร์ ลุ้นกำไรหมื่นล.-มีปันผล

ทันหุ้น- STGT เข้าเทรดตลาดหุ้นสิงคโปร์วันนี้ คาดทำให้ค่าพี/อีของ STGT สูงขึ้นตามกลุ่มอุตสาหกรรม จับตาประชุมบอร์ดพิจารณางบการเงินไตรมาส 1/2564 และการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ โบรกเกอร์ประเมินว่าไตรมาส 1  โกยกำไรชน1 หมื่นล้าน ผงาด 2,277%  เคาะพื้นฐาน 58 บาท

  แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยเกี่ยวกับการที่หุ้นบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX-ST)นั้น คาดว่าเข้าซื้อขายวันนี้ หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ได้มีหนังสืออนุญาตให้เข้าจดทะเบียนแบบมีเงื่อนไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  โดยมองว่าถึงผลดีที่จะเกิดต่อหุ้น STGT เมื่อเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีผู้ประกอบการถุงมือยางรายใหญ่ระดับโลกหลายบริษัทซื้อขาย และหุ้นเหล่านี้มีค่าพี/อี เรโชที่สูง เนื่องจากนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์มีความเข้าใจในธุรกิจถุงมือยางเป็นอย่างดี

  ขณะที่หุ้น STGT ขณะนี้ยังมีค่าพี/อี ที่ต่ำเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการดังกล่าว ดังนั้นจึงคาดว่าเมื่อเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์แล้ว จะสามารถเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นและสะท้อนถึงค่าพี/อี เรโช ที่เหมาะสมได้  รวมถึงในอนาคตหาก STGT มีแผนขยายธุรกิจเพิ่ม ก็สามารถใช้ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เป็นแหล่งในการระดมทุนได้อีกช่องทางหนึ่ง

*ดีมานด์ถึงมือยางพุ่ง
  สำหรับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ในประเทศไทยขณะนี้ ทำให้ความต้องการใช้ถุงมือยางเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นทาง STGT จึงได้มีการนำสินค้าขายในประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนการเสนอขายปัจจุบันนี้จะเป็นการขายในต่างประเทศประมาณ 90% และเป็นการขายในประเทศประมาณ 10% บวกลบเล็กน้อย

  แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า STGT จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2564 ในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ โดยคณะกรรมการบริษัทจะให้การรับรองงบการเงินดังกล่าว รวมถึงจะพิจารณาการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในงวดไตรมาส 1/2564 อีกด้วย หลังจากที่บริษัทได้ปรับนโยบายการจ่ายเงินปันผล โดยต้องการที่จะจ่ายเงินปันผลในทุกไตรมาส

  ก่อนหน้านี้ STGT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ในไตรมาส 4/2563 มีกำไรสุทธิ 8,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,506% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 94% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2563 ขณะเดียวกันคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท

*โรงงานกลับมาผลิตพ.ค.นี้
  นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT เปิดเผยว่า คาดว่าโรงงานผลิตถุงมือยางแห่งใหม่ ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมจะกลับมาเดินเครื่องจักรครบทุกสายการผลิตได้อีกครั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งจะเสริมศักยภาพการผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ถุงมือยางจากทั่วโลก โดยปัจจุบันบริษัทยังคงได้รับคำสั่งซื้อสินค้าใหม่จากประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง  

  ทั้งนี้ ในปี 2564 บริษัทวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตอีก 3,000 ล้านชิ้นต่อปี รวมเป็น 36,000 ล้านชิ้นต่อปี โดยนอกจากโรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี บริษัทมีแผนเปิดโรงงานใหม่อีกไตรมาสละ 1 แห่ง ในไตรมาส 2 ไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ของปีนี้ ประกอบด้วย โรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานีอีก 1 แห่ง โรงงานที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา 1 แห่ง และโรงงานจังหวัดตรัง 1 แห่ง นอกจากนี้ได้วางเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตรวมเป็น 80,000 ล้านชิ้นต่อปีภายในปี 2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 100,000  ล้านชิ้นต่อปีภายในปี 2569

*ลุ้นไตรมาส 1/64 กำไรหมื่นล.


  บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (ทหาชน) ระบุถึง STGT ว่า คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/2564 ที่ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,277% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาสก่อน กำไรระดับดังกล่าว นับเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยมีปัจจัยบวกจากราคาขายถุงมือยางเฉลี่ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2.29 บาทต่อชิ้น เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาส 4/2563 ซึ่งอยู่ที่ 1.91 บาทต่อชิ้น โดยคาดมีปริมาณขายถุงมือยางอยู่ที่ 7,163 ล้านชิ้น


  โดยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ยังคงดีต่อเนื่อง จากราคาขายที่ปรับเพิ่มขึ้นนราว 5% ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบน้ำยางข้นคาดว่าทรงตัวจากไตรมาส 1/2564 และคาดว่าแนวโน้มราคาขายถุงมือยางในครึ่งปีหลังจะทรงตัวและอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาส 2/2564 เป็นผลมาจากความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่กระจายทั่วโลก อย่างไรก็ตามยังไม่เห็นการลดลงของความต้องการถุงมือยางอย่างมีนัยยะ และประเมินว่าทั้งปี 2564 จะมีกำไรอยู่ที่ 35,582 ล้านบาท เติบโต 147%

  ทั้งนี้ราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น outperformed ตลาดหุ้น 14% ใน 3 เดือนที่ผ่านมา จากการกลับมาระบาดหนักของโควิด-19 ในช่วงเดือนเมษายน 2564 และยังคงมีผู้ติดเชื้อรายวันในระดับสูง ส่งผลต่อ sentiment เชิงบวกกับราคาหุ้น ซึ่งยังคงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 58 บาทต่อหุ้น


 อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X