> SET > SEAFCO

06 พฤษภาคม 2021 เวลา 18:29 น.

SEAFCO เดินหน้ารับงาน 8โปรเจ็กต์มูลค่า182ล.

ทันหุ้น- SEAFCO เดินหน้างานเจาะเสาเข็มเต็มกำลัง หลังแจ้งตตลาดหลักทรัพย์เข้ารับงานใหม่ 8 โปรเจกต์ มูลค่ากว่า 182 ล้านบาท ขณะที่โบกเกอร์มองแนวโน้มไตรมาสแรก พลิกทำกำไร และปี 2565 งบโดดเด่น


ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด(มหาชน) หรือ SEAFCO แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัทได้รับงาน8 โครงการใหม่ ในเดือน พฤษภาคม 2564 มีมูลค่ารวมซึ่งยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงินประมาณ 182.80 ล้านบาท


เปิด8 โปรเจกต์ใหม่

สำหรับ 8 โครงการดังกล่าวประกอบด้วย โครงการ อาคารรุ่งโรจน์ธนกุล ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ เป็นงานเสาเข็มเจาะแบบกลม ระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีบริษัท รุ่งโรงจน์ธนกุล จำกัดเป็นผู้ว่าจ้าง, โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานี PK15 ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เป็นงานเสาเข็มเจาะแบบเหลี่ยม มีบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC เป็นผู้ว่าจ้าง


โครงการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย พื้นที่นาวง ถ.สรงประภา กรุงเทพฯ เป็นงานเสาเข็มเจาะแบบกลม ระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีบริษัท บุญนิสา จำกัดเป็นผู้ว่าจ้าง, โครงการ โรงพยาบาลคลองสามวา เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เป็นงานเสาเข็มเจาะแบบกลม ระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีบริษัท อาคาร 33 จำกัดเป็นผู้ว่าจ้าง, โครงการ อาคารจอดรถ เทอมินอล 21 พัทยา อ.บางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นงานเสาเข็มเจาะแบบกลม ระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัดเป็นผู้ว่าจ้าง


โครงการโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ สุรวงศ์ ถ.สุรวงศ์ กรุงเทพ เป็นงานเสาเข็มเจาะแบบกลม ระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัดเป็นผู้ว่าจ้าง, โครงการสะพานข้ามคลองเจ้าเมือง-คลองเพลง ถ.พระราชวิริยาภรณ์ สมุทรปราการ ลักษณะงานเขาเข็มเจาะแบบกลม ระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีบริษัท ภิรัชโทเทิลโซลูชั่นส์ จำกัดเป็นผู้ว่าจ้าง และโครงการ อาคารอเนกประสงค์และโรงเจ วัดมังกรกมลาวาส ถ.เจริญกรุง กรุงเทพฯ เป็นงานกำแพงกันดินระบบไออะแฟรมวอลล์ และเสาเข็มเจาะแบบกลม ระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) เป็นผู้ว่าจ้าง


เมื่อเร็วๆนี้ ดร.ณรงค์ เผยกับ ทันหุ้น ว่า SEAFCO มีงานในมือ (Backlog) อยู่กว่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงานประมูลเฉพาะค่าแรงงานสัดส่วนประมาณ 20% และงานประมูลเหมารวมทั้งค่าแรงงานและวัสดุก่อสร้าง 80% โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ไปถึงไตรมาส 3/2564 ทำให้บริษัทไม่กังวลต่อปริมาณงานใหม่ที่จะชะลอตัวเนื่อง แม้จะมีสถานการณ์โควิด-19 ระลอกที่ 3 ระบาดหนัก


ประเมินการเติบโตของรายได้ในปี 2564 อาจจะต่ำกว่าปี 2563 เล็กน้อย ซึ่งจะสอดคล้องกับปริมาณงานที่ยังไม่มีเข้ามา รวมถึงแรงงานปัจจุบันก็ยังประสบปัญหาขาดแคลน ซึ่งก็ทำให้ค่าแรงปรับตัวขึ้นค่อนข้างสูง และมีอัตราการใช้เครื่องจักรอยู่ที่ประมาณ 60%


กูรูชี้Q1พลิกทำกำไร

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่าผลประกอบการของ SEAFCO ใน 1Q64 จะพลิกฟื้นจากที่ขาดทุนสุทธิใน 4Q63 เนื่องจากไม่ต้องตั้งสำรองเพิ่ม รวมถึงไม่มีการปรับอัตรากำไรขั้นต้น และ อัตราการใช้งานอุปกรณ์เพิ่มขึ้น (เป็น 65% ใน 4Q63) ทั้งนี้ ผู้บริหารบอกว่าบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนเหล็กที่แพงขึ้นเนื่องจากมีการล็อกราคาเอาไว้ล่วงหน้าสำหรับเหล็กทั้งหมดที่ต้องใช้ตั้งแต่ตอนเริ่มโครงการแล้ว ในขณะเดียวกัน บริษัทก็ได้รับผลกระทบน้อยมากจากต้นทุนน้ำมันดีเซลที่ขยับเพิ่มขึ้น (แค่ 2-3% ของ COGS)


ปรับลดประมาณการปี 2564-65 ลง 43% และ 20% ตามลำดับ เนื่องจาก i) เราปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลงจาก 15.8% และ 16.1% เหลือ 11.1% และ 14.0% ในปี 2564 และ 2565 เพื่อสะท้อนถึงการแข่งขันที่เข้มข้น และ ii) ปรับเพิ่มสมมติฐาน SG&A/ยอดขาย จาก 4.5% และ 4.7% เป็น 5.2% ในปี 2564 และ 2565


ทางด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด ระบุถึง SEAFCO ว่า คาดผลประกอบการไตรมาส 1/2564 จะพลิกมาเป็นกำไร 50 ล้านบาท เทียบกับขาดทุน 35 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2563 หนุนจากอัตราการใช้เครื่องมือที่สูงขึ้นขณะที่บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากราคาเหล็กที่สูงขึ้น เนื่องจากบริษัททำสัญญากำหนดราคาและปริมาณไว้แล้วตั้งแต่โครงการก่อสร้างเริ่มขึ้น รวมถึงลักษณะงานฐานรากที่มีระยะเวลาโครงการที่สั้น (1-12 เดือน) จะลดความเสี่ยงจากความผันผวนต้นทุนวัตถุดิบ


มีงาน700ล้านบ.จ่อQ2

คาดว่าโครงการ Central Embassy-Phase มูลค่า 700 ล้านบาท ที่จะเริ่มในไตรมาส 2/2564 จะช่วยหนุนรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น อีกทั้งหนุนจากโครงการเมกาโปรเจกต์ที่จะประมูลในปี 2564 มูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (ขายซองประมูลในมิ.ย.), และรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก โดยคาดว่าทั้งสองโครงการจะมีงานฐานรากมูลค่า 8.8 พันล้านบาท


และคาดว่ากำไรปี 2565 จะฟื้นตัวได้เต็มที่หนุนจากโครงการเมกาโปรเจ็กต์ที่จะประมูลในปี 2564 คงคำแนะนำ ซื้อ พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ 5.60 บาท (จาก 6.90 บาท) เทียบเท่า PER ปี 2564 ที่ 15 เท่า

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X