> Digital Coin >

04 พฤษภาคม 2021 เวลา 11:00 น.

5 ความเสี่ยงของการลงทุน Yield Farming ใน DeFi

Yield Farming คือ การลงทุนที่กำลังมาแรงในเวลานี้ด้วยผลตอบแทนที่สามารถทำได้ถึงระดับหลักร้อยเปอร์เซ็นต์ต่อปี และบางช่วงเวลาก็สามารถทำได้ถึงระดับพันเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ตัวเลขที่ดูเยอะนี้ทำให้เกิดกระแสของการแห่มาลงด้วยการทำ Yield Farmimg ในโลกของ DeFi กันอย่างมาก


แต่ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงโดยเฉพาะโลกของ DeFi ที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน ก่อนที่จะเริ่มต้นลงทุนจึงควรต้องศึกษาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นดังนี้


ความเสี่ยงจากการถูก Hack แม้ว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะสามารถป้องกันการถูก Hack ได้แต่ยังต้องระวังความเสี่ยงดังกล่าวอยู่ดีเพราะผู้ให้บริการ Wallet หรือ Exchange ที่ไม่มีระบบ Security ที่ดีพออาจเกิดช่องว่างให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาทำการ Hack ดึงเงินใน Wallet ออกไปจนหมดได้เช่นกัน จึงควรเลือกลงทุนผ่าน Exchange หรือ Wallet ที่มีมาตราฐานสูง


อย่าลงทุนในโปรเจกต์ที่ยังไม่ได้ Audit

โปรเจกต์ DeFi ที่มีมาตราฐานและความน่าเชื่อถือในระดับสูงจะต้องได้รับการตรวจสอบโค้ดหรือ Audit จาก Third Party เสียก่อนว่า Smart Contract ที่เขียนไว้สามารถแก้ไขภายหลังได้หรือไม่ เพราะถ้ามีการแก้ไขได้ จะเป็นช่องว่างให้เจ้าของแพลตฟอร์มสามารถทุจริตกับธุรกรรมต่างๆของลูกค้าได้เช่นดึงเงินออกจาก Wallet ได้โดยที่เจ้าของเงินไม่รู้ตัว หรืออาจจะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการลงทุนจนทำให้เกิดความเสียเปรียบ จึงไม่ควรลงทุนในโปรเจกต์ที่ยังไม่ถูก Audit


ถูกชักชวนให้ลงทุนใน Scam Project

แม้ว่าการถูกหลอกให้ลงทุนในโปรเจกต์ที่เข้าข่ายหลอกลวงหรือ Scam จะซาลงไปค่อนข้างมากแล้วหลังจากยุคของ ICO ที่เฟื่องฟู และพื้นฐานของ DeFi Project จะดูดีกว่า ICO จากการที่อย่างน้อยก็ต้องมีแพลตฟอร์มพร้อมใช้งานแล้ว ต่างจาก ICO ที่อาจจะขายเพียงแค่ Whitepaper 


อย่างไรก็ตามในโลกออนไลน์ยังเห็นโปรเจกต์ Scam ชักชวนให้ลงทุนใน DeFi อย่างต่อเนื่อง โดยชูเรื่องของผลตอบแทนจำนวนมากเพื่อล่อนักลงทุน จึงต้องระมัดระวังหลงไปลงทุนใน DeFi Protocol ที่ดูไม่น่าเชื่อถือเพราะมีโอกาสที่จะปิดเวบและหนีไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกับเงินของเรา


ความผันผวนของราคาเหรียญ

แม้ว่า Yield Farming คือ การลงทุนที่อาจจะดูไม่มีความเสี่ยง แต่ทแท้จริงแล้วยังมีความเสี่ยงในเรื่องของความผันผวนของราคาเหรียญที่เรานำมาทำการฟาร์มหรือที่เรียกว่า Impermanent Loss กล่าวคือเป็นผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจากราคาเหรียญคริปโตที่นำไปทำ Yield Farming มีราคาในตลาดที่ลดลง เช่น ตอนนำ BTC ไปทำฟาร์มราคาอยู่ที่ 50,000 ดอลลาร์ แต่ต่อมาราคาลดลงเหลือ 40,000 ดอลลาร์ ทำให้ผลตอบแทนจากการทำฟาร์มลดลง


การลดความเสี่ยงในส่วนนี้สามารถทำได้โดยเลือกใช้ Stablecoin ทำฟาร์มเท่านั้นเนื่องจากมีความผันผวนของราคาที่ต่ำ 


ค่าธรรมเนียมที่แพง

อีกหนึ่งความเสี่ยงที่ลายคนมองข้ามไปนั่นคือค่าธรรมเนียมในการใช้แพลตฟอร์ม โดยหากเป็นเชนของ Ethereum จะเรียกว่าค่า Gas ซึ่งค่าธรรมเนียมที่จะผันแปรไปตามมูลค่าและความซับซ้อนของธุรกรรม เช่น วงเงินลงทุนจำนวนมากและยังมีปัจจัยเรื่องของจำนวนธุรกรรมที่เกิดขึ้นในระบบของ Ethereum หากมีจำนวนธุรกรรมที่สูงก็จะทำให้ค่า Gas สูงขึ้น จนทำให้ผลตอบแทนที่ควรจะได้จากการทำ Yield Farming ลดลงไปอย่างมาก เรื่องของค่าธรรมเนียมจึงเป็นปัจจัยที่นักลงทุนไม่ควรจะมองข้าม 


การที่มีผู้พัฒนา DeFi Protocol หน้าใหม่เกิดขึ้นจะมีส่วนทำให้ค่าธรรมเนียมการใชงานมีโอกาสปรับลดลง รวมถึงผู้เล่นเดิมที่ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างภายในให้มีค่าธรรเนียมที่ถูกลงด้วยเช่นกัน


บทความโดย Ricco Wealth


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X