MGT ถ้ากลุ่มปิโตรฯดี คนขายเคมีที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาต้องดี

สำหรับคำแนะนำเชิงปัจจัยพื้นฐานของ MGT ผมยังไม่ได้จัดทำอย่างเป็นทางการ แต่พบว่าหุ้นตัวนี้มีความน่าสนใจ เนื่องจากเป็นผู้จัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษแบบครบวงจร ซึ่งถ้าอิงข้อมูลจาก Opportunity Day รอบที่ผ่านมา พบว่ามีการเอาไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม ทั้งปิโตรเคมี สี ยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องสำอาง แม้กระทั่งอาหาร ทำให้ผลประกอบการมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาโตเฉลี่ย 29% ต่อปี

แม้ว่าการใช้เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษจะใช้จำนวนไม่เยอะ สำหรับการผสมผลิตภัณฑ์ทางเคมีในแต่ละครั้ง เพราะเป็นเพียงตัวเร่งปฏิกิริยา แต่ถือว่าเป็นของที่จำเป็นต้องใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และถ้าให้ลูกค้าไปซื้อเอง จะต้องไปติดต่อผู้ขายต้นทางหลายราย ทำให้ลูกค้าไม่ว่าจะรายใหญ่รายเล็กเลือกที่จะมาสั่งซื้อจาก MGT

ตอนแรกที่ผมลองศึกษาข้อมูลก็คิดว่าการดำเนินธุรกิจลักษณะนี้ทำไม่ยาก แค่ซื้อมาเก็บและขายออกไป แล้วกินส่วนต่างราคาก็จบ แต่พอลองสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี กลับพบว่าไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เนื่องจากเป็นสินค้าเฉพาะทางที่ต้องเป็นผู้มีความรู้ทางเคมีเป็นอย่างดี และต้องอ่านแนวโน้มในอนาคตให้ออก ว่าเคมีภัณฑ์จะเติบโตไปทางไหน ที่สำคัญคือการขนส่งและการจัดเก็บ ต้องมีใบอนุญาตเพราะถือเป็นสินค้าอันตราย และการก่อสร้างโกดังต้องทำให้ถูกระเบียบ เพราะฉะนั้น การแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้จึงไม่รุนแรง

พอพูดถึงภาวะอุตสาหกรรม ที่สะกิดตาผมมากๆ คือ ผลประกอบการ 1Q64 ของกลุ่มปิโตรเคมีในบ้านเราจะออกมาดีอย่างผิดหูผิดตา เช่นเดียวกับกลุ่มสีและชิ้นส่วนยานยนต์ ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ MGT เพราะฉะนั้น ผลประกอบการของ MGT ก็น่าจะออกมาดีตาม และเมื่อผมลองไปตรวจสอบยอดนำเข้าเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาก็พบว่า เดือน มี.ค. 64 เพิ่มขึ้นถึง 9% MoM และ 24% YoY ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 209 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ นั่นหมายความว่าข้อสังเกตผมน่าจะถูก จึงลองโทรไปสอบถามผู้บริหาร ก็ได้รับข้อมูลในมุมของภาพธุรกิจและอุตสาหกรรมที่สอดคล้องไปในทางเดียวกัน

โดยสรุปคือ MGT เป็นผู้ขายสินค้าจำเป็น ในการนำไปผลิตสินค้าขั้นปลายเกือบทุกอย่างบนโลกใบนี้ และเป็นหุ้นที่เติบโตตามกลุ่มปิโตรเคมี สี ยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และการแพทย์ “ถ้าลูกค้าดี ยังไงคนขายสินค้าให้ก็ต้องดีตาม” ผมคาดกำไรสุทธิ 1Q64 เบื้องต้นที่ 30 ล้านบาท โต 76% QoQ และ 20% YoY ทำให้กำไรสุทธิทั้งปีนี้มีแนวโน้มไปได้ถึง 120 ล้านบาท โต 20% YoY คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.30 บาท/หุ้น ราคาหุ้นตอนนี้คิดเป็น PER2564 เพียง 12 เท่า และมีปันผลเฉลี่ย 4-5% ต่อปี ซึ่งเมื่อเทียบกับคาดการณ์การเติบโตที่ปีละ 20% จะคิดเป็น PEG ได้เพียง 0.6 เท่า

MGT จึงถือเป็นหุ้นไซส์เล็ก พื้นฐานดี ราคาไม่แพงที่น่าจับตา ส่วนความเสี่ยงที่ต้องติดตามคือ การอ่อนค่าของเงินบาท เพราะเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษส่วนใหญ่ต้องนำเข้า ธุรกิจที่นำเข้าสินค้ามาขายในประเทศจะถูกกดดันเมื่อเงินบาทอ่อนค่า ถ้า MGT มีความสามารถในการปรับราคาขายขึ้นได้สอดคล้องกับต้นทุนที่ขึ้นก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าการปรับขึ้นราคาขายไม่สามารถทำได้ทันที ตรงนี้จะทำให้ผลประกอบการรายไตรมาสมีความผันผวนได้ครับ

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1