> SET > BPP

30 เมษายน 2021 เวลา 09:44 น.

BPPบุ๊กกำไรIGCCหนุนฐาน กลางปีปิดดีลโรงไฟฟ้าแก๊ส

ทันหุ้น - BPP ส่งซิกลงทุน IGCC ในญี่ปุ่น สร้างผลตอบแทนตามส่วนแบ่งการลงทุนกว่า 220-250 ล้านบาทต่อปี พร้อมเดินหน้าลงทุนไทย เวียดนาม ญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯ ต่อเนื่อง คาดว่าการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ HELE ไม่เกินต้นไตรมาส 3/64 ได้ข้อสรุป


ดร.กิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดเผยว่าจากการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า Nakoso Integrated Gasification Combined Cycle (IGCC) จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการแปลงสถานะถ่านหินให้เป็นก๊าซ กับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมกังหันก๊าซ เข้าด้วยกัน ขนาดกำลังการผลิต 543 เมกะวัตต์ (MW) แต่คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ราว 73 MW จะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2564 ให้มีการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน


บุ๊กกำไรQ2


ทั้งนี้ โครงการ Nakoso ได้เริ่มดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ววันที่ 16 เม.ย. 2564ทำให้คาดว่าบริษัทจะเริ่มบันทึกส่วนแบ่งกำไรตามการลงทุนโครงการดังกล่าวเข้ามาได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 นี้เป็นต้นไป และคาดว่าโครงการ Nakoso จะสร้างกำไรตามส่วนแบ่งการลงทุนให้กับบริษัทได้ไม่น้อยกว่า 220-250 ล้านบาทต่อปี ปัจจุบันโรงไฟฟ้า Nakoso เป็นโรงไฟฟ้า IGCC ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าที่สูง และลดการปล่อยมลภาวะอยู่ในระดับต่ำ (HELE) มีเสถียรภาพในการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างมั่นคงผ่านระบบสายส่งของประเทศตามสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าหรือ PPA ระยะยาว


นอกจากนี้ บริษัทยังคงมีความสนใจและอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าลงทุนด้านพลังงานโครงการใหม่ในประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพลังงานสะอาด (Green Energy) เพราะภาครัฐญี่ปุ่นให้การสนับสนุนด้านพลังงานอย่างมาก ขณะเดียวกันบริษัทก็มีความสนใจในการเข้าลงทุนโครงการพลังงานอื่นๆ เช่น ในประเทศเวียดนามมีความสนใจโรงไฟฟ้าพลังงานลมแถบตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ส่วนจีนบริษัทมีความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Power Plant)


กลางปีปิดดีลแก๊ส


ขณะที่ประเทศสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนและอยู่ระหว่างการทำดิวดิลิเจนท์กิจการโรงไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติอยู่หลายโครงการ มีขนาดกำลังการผลิตตั้งแต่ 1,000 MW ไปจนถึง 1,600 MW แต่ในเบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปของการลงทุนในช่วงปลายไตรมาส 2/2564 ไม่เกินต้นไตรมาส 3/2564ไม่น้อยกว่า 1 ดีล โดยการลงทุนนั้นอาจจะเป็นลักษณะการร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่บริษัทจะมีสัดส่วนการถือหุ้น 20-30%

ส่วนงบลงทุนปี 2564 บริษัทเตรียมไว้ประมาณ 200-300 ล้านดอลลาร์ เพื่อรองรับสำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามแผนเดิมและรองรับการซื้อกิจการโรงไฟฟ้าใหม่ที่จะเข้ามาในปีนี้ โดยปัจจุบันมีการใช้เงินลงทุน IGCC ไปแล้วราว 80 ล้านดอลลาร์


แม้ตอนนี้จะมีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ทำให้รูปแบบการทำงานอาจเปลี่ยนแปลงไป แต่บริษัทมองว่าสามารถปรับตัวได้และไม่เป็นปัญหาต่อการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าแต่อย่างใด และบริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้า ที่ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตรวมแตะ 5,300 MW ภายในปี 2568


อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2/2564 คาดว่าจะสามารถ COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Vinh Chau phase (หวินเจา) ระยะแรกขนาด 30 MW เข้ามาเพิ่ม ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังปี 2564 บริษัทมีแผนจะ COD อีก 2โครงการใหม่ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตรวมประมาณ 30 MW ในไตรมาส 3/2564 จะ COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เคเซนนุมะ (Kessenuma) และในไตรมาส 4/2564 จะ COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชิราคาวะ (Shirakawa) เป็นต้น สะท้อนต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน และ EBITDA ในปี 2564 ที่คาดว่าจะดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X