ทันหุ้น-OSP ตลาดวิตามินปีนี้แรง โควิดช่วยเร่งผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพ ชี้ปีที่ผ่านมา C-vitt ขายดีโตกว่า50% ปีนี้ดีต่อเนื่อง ครองแชมป์มาร์เก็ตแชร์อันดับ 1เร่งกระจายสินค้า ไตรมาสหน้าเล็งออกสินค้าใหม่ รุกขยายช่องทางตู้ Vending Machine -ตลาดเพื่อนบ้าน ฟากโบรกมองกำไรปกติไตรมาส1/64 ที่ 800-850 ล้านบาท กำไรทั้งปีโตต่อเนื่อง เป้า 42 บาท

นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)หรือOSP เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้บริโภคดูแลใส่ใจในสุขภาพมากขึ้นโดยเฉพาะการป้องกัน ดูแลสุขภาพ ของทุกคนในครอบครัว การซื้อสินค้าในช่วงนี้ยังเน้นไปที่การบริโภคในครัวเรือนเป็นหลัก สินค้าวิตามิน C-vitt หรือ ซีวิท เป็นที่รู้จักและผู้บริโภคชื่นชอบในรสชาติ ปัจจุบัน ซีวิทวางจำหน่ายผ่านช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่งของโอสถสภา ซึ่งครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย กว่า 400,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ใน CVS และโมเดิร์นเทรด ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย สินค้ามีหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งในรูปแบบขวด กล่องเล็ก ในรูปแบบเจลลี่ และล่าสุดพึ่งเปิดตัวซีวิทในกล่องขนาดใหญ่สำหรับครอบครัวทั้งนี้ ในปี 2563 ซีวิทเติบโตมากกว่า 50% และมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งทั้งในตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีและในตลาดฟังก์ชันนอลดริงก์ โดยมีส่วนแบ่งตลาดฟังก์ชันนอลดริงก์อยู่ที่ 31.0%

*ตลาดวิตามินโตดี

อย่างไรก็ดี สำหรับปีนี้ตลาดวิตามินซีในประเทศน่าจะเติบโต จะเห็นได้จากการที่มีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาในตลาดมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ภาพรวมของตลาดในปีนี้น่าจะดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์โควิดและเทรนต์การดูแลสุขภาพของผู้บริโภค โดยซีวิทเป็นสินค้าที่มีการพัฒนาตลอด ด้วยรสชาติที่โดดเด่น และส่วนผสมที่มีคุณภาพ อีกทั้งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยม ผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษจากญี่ปุ่น ช่วยรักษาปริมาณวิตามินซีต่อขวดและคงคุณสมบัติของวิตามินซีได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ผู้บริโภคไว้วางใจ มีรสชาติหลากหลายและมีหลายรูปแบบ ทั้งแบบขวดแก้ว กล่องพร้อมดื่ม แบบเจลลี่ที่ให้คุณค่าของวิตามินซี พร้อมกันนี้ล่าสุดได้เปิดตัวกล่องขนาด1 ลิตร และไตรมาสหน้าจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด

ขณะที่แผนการทำการตลาดในปีนี้ เน้นการกระจายสินค้าให้มากที่สุด ให้คลอบคลุมทุกพื้นที่ผ่านเครือข่ายเอเย่นต์และร้านค้าทั่วประเทศ โดยเฉพาะร้านค้าตู้แช่ขนาดเล็กในชุมชน และในช่องทางตู้ Vending machine สำหรับแผนโปรโมชั่นก็มีการวางไว้เป็นระยะเพื่อกระตุ้นและสร้างสีสันให้ผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังได้ขยายตลาดไปในประเทศเพื่อนบ้านอาทิ ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ ตั้งแต่ปลายปี 2563 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

*ราคาหุ้นปัจจุบันถูก

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัดระบุถึง OSP ว่าแนวโน้มกำไรปกติ ไตรมาส 1/2564 เบื้องต้นคาดที่ 800-850 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 5% จากไตรมาสก่อนหน้า หลักๆมาจากคาดรายได้ของเครื่องดื่มและของใช้ส่วนบุคคลในประเทศไทยหดตัวลงหลังเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายและเข้าร้านสะดวกซื้อน้อยลง

ส่วนสถานการณ์ในพม่า ล่าสุด OSP ยังแจ้งว่าโรงงานในพม่ายังสามารถเปิดดำเนินงาน อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง เรามองสถานการณ์จะกระทบในระยะสั้น ซึ่งถ้าสถานการณ์กินระยะเวลาราวๆ 3 เดือน (เดือน มีนาคม-พฤษภาคม 2564 ) คาดรายได้ปี 2564 ในพม่าลดลง -13% (รายได้รวมลดลง -2%)จะส่งผลให้มี Downside ต่อกำไรปี 2564 อยู่ที่ -1.2% และ Downside ต่อ ราคาเป้าหมาย ปี 2564 อยู่ที่ -1 บาทต่อหุ้น และถ้าสถานการณ์รุนแรงจนไม่สามารถดำเนินกิจการได้จนถึงปลายปี 2564จะมี Downside ต่อกำไรปี 2564 อยู่ที่ -9% และ Downside ต่อราคาหุ้น -4 บาทต่อหุ้น ทั้นี้ ประเมินคำแนะนำ Buy ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ที่ 42.00 บาท จากแนวโน้มผลประกอบการปี 2564 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจาก คาดกำลังซื้อที่ค่อยๆฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ และ คาดอัตรากำไรขั้นต้นหรือ GPM ที่จะดีขึ้นจากโครงการ Fit fast firm และและการเดินเครื่องของรงงานในพม่าเต็มปีอีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ในโซนถูก

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1