ทันหุ้น – HMPROเตรียมอีคอมเมิร์ซรองรับ โควิด-19 คาดไม่กดดันยอดขาย เผยจากประสบการณ์ สามารถบริหารจัดการภายในได้ดี ด้านรายได้ปีนี้ก็มองเติบโต 3-5% จากปี 2563 SSSG รวมไม่ติดลบ เดินหน้าตามแผนเปิดสาขา โฮมโปรประเทศไทย- มาเลเซีย ทานด้านโบรกยังมีมุมมองบวก ไตรมาส2/2564 ฟื้นตัว จากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า กำไรเติบโตต่อเนื่อง

นายรักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบัญชีและงบประมาณ บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยว่า ช่องทางการขายผ่านอีคอมเมิร์ซยังอยู่ในระดับสูง และมีอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทมองว่า มาจากการที่ผู้บริโภคนั้นรับรู้และยอมรับการซื้อขายในรูปแบบอีคอมเมิร์ซมากขึ้น

ทั้งนี้ที่ผ่านมาในช่วงไตรมาสแรกของทุกปี บริษัทจะมีการจัด นิทรรศการ โฮมโปรเอ็กซ์โปร ที่เมืองทองธานี แต่ปีนี้ไม่ได้มีการจัดงานเนื่องจากสถานการณ์โควิด -19 ที่ยังไม่คลี่คลาย แต่คาดว่าจะไม่กระทบต่อยอดขายมากนัก เนื่องจากบริษัทได้มีการจัดงาน โฮมโปรซุปเปอร์เอ็กซ์โปร ในทุกสาขา วันที่ 2-6 เมษายน 2564 ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าได้เป็นจำนวนมาก ถือว่าได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 1/2564 ประเมินว่ามีการเติบโตที่ดีขึ้น และดีกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากไตรมาสแรกแม้จะมีการระบาดของโควิดแต่ยังไม่มาล็อกดาวน์เมือง โดยประเมินว่ายอดขายก็น่าจะเป็นบวกได้ สำหรับตัวเลขยอดขายของสาขาเดิม(SSSG) ในช่วงไตรมาสที่ 1/2564 คาดว่าจะออกมาใกล้เคียงเดิมหรือบวกลบเล็กน้อย ในขณะที่เดือน เมษายนปี 2563 มีการปิดสาขาเนื่องจากสถานการณ์ล็อกดาวน์ในประเทศ ซึ่งปัจจุบันภาพรวม SSSG ของบริษัทไม่ได้ติดลบแล้ว

รายได้โต 3-5%

สำหรับรายได้ปีนี้ก็คาดว่าจะเติบโตประมาณ 3-5% จากปี 2563 ที่บริษัทมีรายได้รวม 61,765 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5,154 ล้านบาท  อย่างไรก็ตามบริษัท มองว่าภาพรวมการเติบโตปี 2564 นี้ จะมากกว่าปี 2563 อยู่แล้วเนื่องจากมาจากฐานที่ต่ำ ส่วนแผนธุรกิจในปี 2564 จากที่เคยได้ประกาศไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ยังเดินหน้าตามแผน เปิดสาขา โฮมโปร ประเทศไทย 1 สาขา และโฮมโปรมาเลเซีย 1 สาขา

ทางด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด มีมุมมองต่อ HMPROโดยคาดว่าอัตราเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 1/2564 ของ HMPRO จะพลิกฟื้นมาอยู่ที่ +0.5% จาก -6.3% ในไตรมาส 4/2563 SSSG ในแต่ละเดือนของไตรมาส 1/2564 ติดลบน้อยลงและพลิกกลับมาอยู่ในเชิงบวกในเดือน มีนาคม HMPRO ไม่มีการเปิดสาขาใหม่ในไตรมาส 1/2564 และไม่มีการจัดงานเพื่อส่งเสริมการขายอย่าง “HomePro Expo” ดังนั้น จึงคาดว่ายอดขายในไตรมาส 1/2564 จะอยู่ที่ 1.47 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% YoY แต่ลดลง 1.7% QoQ

คาดอัตราฟื้นตัวในไตรมาส 2/2564 จะน้อยกว่าที่คาดไว้ สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกสาม ทำให้ประเมินว่าผู้บริโภคจะเดินทางไปยังพื้นที่สาธารณะน้อยลง และคาดว่าจำนวนผู้มาใช้บริการในสาขาจะลดลงในเชิง QoQ อย่างไรก็ดีผลจากการปิดสาขาชั่วคราวเมื่อเดือน เมษายน 2563 ทำให้คาดว่า SSSG ในไตรมาส 2/2564 จะเป็นบวกได้

คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-2565 ไว้ตามเดิม และคาดว่ากำไรสุทธิปี 2566 จะมีCAGR อยู่ที่ +10.8% เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 และ 2565 ไว้ตามเดิมที่ 6.1พันล้านบาท และ 6.5 พันล้านบาท ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิปี 2566 จะอยู่ที่ 7.0 พันล้านบาท หรือมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ช่วง 3 ปีอยู่ที่ 10.8%

คงคำแนะนำซื้อ

ประมาณการ SSSG ในปี 2564 โต 6% ปี 2565 โต2% และปี 2566 โต 2% คงคำแนะนำ “ซื้อ” HMPRO และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น16.70 บาท (จาก 16.20 บาท) ปรับปีฐานราคาเป้าหมายไปเป็นกลางปี 2564 จากสิ้นปี

2563 มูลค่าหุ้น อิงด้วย PER ของ EPS เฉลี่ยระหว่างปี 2565-2566 ที่ 32.6 เท่า หรือ เท่ากับ 1.0SD มากกว่า PER เฉลี่ย ในอดีต