> KS Whole in one >

19 เมษายน 2021 เวลา 06:30 น.

กลยุทธ์การลงทุนทยอยซื้อไม้แรกบริเวณ 1,535จุด แนะ JMT, DOHOME

กลยุทธ์การลงทุนทยอยซื้อไม้แรกบริเวณ 1,535จุด แนะ JMT, DOHOME ไม้สองรอ 1-2สัปดาห์เพื่อพิจารณาอีกครั้ง


- วันจันทร์ ติดตาม ปริมาณการส่งออก (ปีต่อปี) (มี.ค.) ญี่ปุ่น ตลาดคาด -0.8%, ปริมาณการนำเข้า (ปีต่อปี) (มี.ค.) ญี่ปุ่น ตลาดคาด 11.9%

- วันอังคารติดตาม อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคาร PBoC

- วันพุธติดตาม รายงานสินค้าคงเหลือของน้ำมันดิบประจำไตรมาสจาก API, สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

- วันพฤหัสติดตาม ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (เดือนต่อเดือน) (มี.ค.), อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสถาบันการเงินที่ฝากไว้กับธนาคารกลาง (เม.ย.) EU ตลาดคาด -0.50


- วันศุกร์ติดตาม ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (เม.ย.) US ตลาดคาด 60.0%, ดัชนี PMI รวมจาก Markit (เม.ย.) EU ตลาดคาด 52.6, ดัชนี PMI ภาคการบริการ (เม.ย.) EU ตลาดคาด 48.3, ดัชนี PMI ภาคการผลิต (เม.ย.) EU ตลาดคาด 62.1


หากนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา SET ปรับตัวลงประมาณ 60จุด หรือประมาณ 4% เป็นผลจากความกังวลของยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ระลอกสาม ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อเร่งขึ้นจากระดับ 26รายต่อวัน เป็น 1,543รายต่อวัน ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย CAGR(%) สูงกว่า 30% ซึ่งทำสถิติยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นที่เรียบร้อย หากอิงจากผลกระทบของ 2nd wave พบว่า SET ปรับตัวลงประมาณ 5.5% และดีดตัวกลับลักษณะ V-shape ภายใน 10 วันทำการ (จากระดับ 1,400จุดมาถึง 1,500จุด) ซึ่งกลุ่มที่ปรับขึ้นเด่นในครั้งนี้ส่วนมากนำโดย Global play ได้รับผลกระทบจำกัด และกลุ่มการเงิน


สำหรับยอดผู้ติดเชื้อรายวันปรับขึ้นจากระดับ 30 เป็น 960+/- รายต่อวัน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2เดือนก่อนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ในขณะที่การ lockdown มีพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28จังหวัด (สีแดง) และจังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 11จังหวัด รวมประมาณ 4สัปดาห์ เมื่อเทียบกับ 3rd wave ที่ล่าสุดเตรียมเสนอต่อศบค.ชุดใหญ่ในวันนี้พิจารณาการ lockdown แบ่งเป็นจังหวัดสีแดง 18จังหวัด และ 59 จังหวัดสีส้ม จำกัดเวลาเปิด-ปิดร้านอาหาร, ผับบาร์ ปิดทั่วประเทศ งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม


สำหรับผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ปัจจุบันยังมีความยากลำบากในการประเมิน อย่างไรก็ตามเราคาดว่าผลกระทบในครั้งนี้จะอยู่ระหว่าง 1st และ 2nd wave กล่าวคือผลกระทบน้อยกว่าระลอกแรก เนื่องจากคาดผลจำกัดต่อภาคอุตสาหกรรม สำหรับภาคบริการคาดว่ารุนแรงกว่า 2nd wave เนื่องจากรอบนี้ 3จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดอย่าง กทม. ชลบุรี และเชียงใหม่ ล้วนเป็นจังหวัดที่มีสัดส่วน GDP ต่อประเทศสูง รวมถึงการควบคุมสีแดง สีส้ม รายจังหวัดสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด (การเร่งตัวของจังหวัดสีส้มและแดง รวดเร็วกว่าในช่วง 2nd wave ) โดย downside ของเศรษฐกิจรอบนี้จะมากขึ้นอย่างมากหากไม่สามารถควบคุมได้ใน 2เดือน ซึ่งจะเป็นช่วงที่เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือ 2.5แสนล้านบาทจะหมดลง และทำให้ GDP มีโอกาสถูกปรับประมาณการลงจากระดับปัจจุบันที่ 2.6% และสำหรับประมาณการ downside ของหุ้นในกลุ่ม Domestic play อย่างธนาคาร, ค้าปลีก และ ICT เราคาดว่าผลกระทบจะต่ำกว่า 5% ในขณะที่ global play ที่มีน้ำหนักสูงสุดอย่างกลุ่มพลังงานคาดผลกระทบจำกัด โดยสรุปเราประเมินว่าหาก SET ปรับตัวลงมากกว่า 5% จากระดับก่อนเกิด COVID-19 ระลองสามที่ 1,600จุดแล้ว บริเวณ 1,500-1,535จุด เป็นกรอบในการเริ่มกลับมาทยอยสะสมอีกครั้ง


สำหรับปัจจัยต่างประเทศที่บวก ล่าสุดรายงานยอดค้าปลีกออกมาดีกว่าคาดถึง 9.8% (คาดการณ์ 5.8%) จากเดือนก่อนหน้าที่ -3.0% ในขณะที่รายงานยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงเหลือเพียง 5.7แสนอัตรา ต่ำกว่าคาดเช่นกันที่ 7.1แสนอัตรา ซึ่งถือเป็นระดับการขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ต่ำสุดนับตั้งแต่การระบาดระลอกแรกในสหรัฐช่วงเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา รวมถึงการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนที่ผ่านมาสูงขึ้นถึง 2.6% ซึ่งการที่ทยอยรายงานออกมาดีกว่าคาดในช่วง 6เดือนที่ผ่านมา ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นโดยเฉพาะกลุ่มที่อิงปัจจัยการฟื้นตัวในประเทศอย่าง Value play แต่จากนี้เป็นต้นไปเราคาดว่าการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ (จากทั้งฐานที่ต่ำในช่วง 2Q20 , มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะจากเช็คเงินสดรวมถึงการเร่งฉีดวัคซีนในระดับ 3.0ล้านโดสต่อวัน ซึ่งจะทำให้เกิด Herd immunity ในช่วง 3Q21 ) จะเป็นเหมือนดาบสองคม กล่าวคือเราคาดว่าอานิสงค์บวกหรือความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐจะเริ่มลดลง ซึ่งล่าสุดถ้อยคำแถลงของคุณ Powell เริ่มพูดเป็นนัยถึงการทยอยลดความวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตร จากปัจจุบันที่เดือนละ 1.2แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นผลให้ค่าเงินดอลลาร์ยืนแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นโดยเฉพาะฝั่งประเทศเกิดใหม่ และเราคาดว่าการลงทุนในช่วง 2Q21 ตลาดหุ้นฝั่งเกิดใหม่ (MSCI Emerging market) มีโอกาสที่จะให้ผลตอบแทนน้อยกว่า


ประเมินกรอบ SET 1,510-60 จุด

หุ้นแนะนำประจำสัปดาห์หน้า

JMT (TP: 48.00)

DOHOME (TP: 21.50)



จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X