> Trendtalk > BCH

09 เมษายน 2021 เวลา 06:10 น.

BCH

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานฟื้นตัวกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1560 จุด หลังจากปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับสำคัญที่ 1550 จุด แล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มของตลาดหุ้นยังมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1580 และ 1600 จุด ถ้ายังไม่หลุดระดับ 1550 จุดลงไป


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ BCH หรือ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจในรูปแบบกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งมีโรงพยาบาลในเครือทั้งหมด 13 แห่ง และโพลีคลินิก 1 แห่ง ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้บริการทางการแพทย์ในระดับปฐมภูมิ-ตติยภูมิ ภายใต้ 4 กลุ่มโรงพยาบาล คือ 1. โรงพยาบาลเวิลดิ์เมดิคอล 2.กลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล 3.กลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ 4.กลุ่มโรงพยาบาลการุญเวช


ผลการดำเนินงานปี 63 มีกำไรสุทธิ 1,229 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.49 บาท กำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 1,134 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.46 บาท


นายเฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นขอในอนุญาตจัดตั้งศูนย์บำบัดรักษาด้วยกัญชาในโรงพยาบาลในเครือ แม้ว่าบริษัทฯ จะมีความพร้อมในการเปิดให้บริการ แต่เนื่องจากเครือโรงพยาบาลของบริษัทได้รับอนุญาตในการรักษาตามแบบแพทย์ตะวันตก ซึ่งการรักษาด้วยกัญชานั้นจะเป็นการรักษาตามแบบแพทย์แผนไทย ทำให้ต้องมีการยื่นขอใบอนุญาต และต้องมีการฝึกอบรมแพทย์ในการบำบัดรักษาด้วยกัญชา รวมถึงการมีแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตในการบำบัดรักษาด้วยกัญชาเข้ามาด้วย โดยคาดว่าศูนย์ศูนย์บำบัดรักษาด้วยกัญชาของโรงพยาบาลในเครือจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในช่วงปลายปี 64


ส่วนความคืบหน้าในการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 มาให้บริการกับกลุ่มลูกค้าของโรงพยาบาลในเครือนั้น ยังคงต้องเป็นไปตามระยะเวลาที่ภาครัฐอนุญาตให้โรงพยาบาลเอกชนสามารถนำเข้ามาวัคซีนโควิด-19 เข้ามาให้บริการได้ โดยที่เฟสแรกที่ภาครัฐอนุญาตให้โรงพยาบาลเอกชนนำเข้าได้นั้นจะอยู่ในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค. 64 และเฟสที่ 2 ในช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค. 64 ซึ่งบริษัทได้จัดตั้งบริษัทนำเข้าวัคซีนโควิด-19 มาเรียบร้อยแล้ว และได้ติดต่อสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 จากยุโรปที่บริษัทมองว่ามีประสิทธิภาพดีกว่าวัคซีนจากผู้ผลิตที่หลายๆประเทศใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยที่คาดว่าโอกาสในการนำเข้าและเริ่มให้บริการวัคซีนโควิด-19 กับลูกค้าของโรงพยาบาลในเครือได้ในช่วงกลางปี 64


โดยที่ปัจจัยจากการให้บริการเกี่ยวกับการตรวจ การกักตัว และการให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 จะยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยหนุนต่อรายได้ให้กับบริษัทในปีนี้มาต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราการใช้บริการของผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น สามารถชดเชยการลดลงของอัตราการใช้บริการผู้ป่วยในได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่รุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ที่เข้ามาตรวจโควิด-19 ทั้งเดือนม.ค. 64 สูงถึง 100,000 คน ทำให้รายได้จากการให้บริการตรวจโควิด-19 จะยังเป็นปัจจัยที่หนุนรายได้ในไตรมาส 1/64 ให้เติบโตขึ้นได้


ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังเดินหน้าขอโควตารับฐานลูกค้าประกันสังคมในเครือโรงพยาบาลของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยที่อยู่ระหว่างการยื่นขอเพิ่มจำนวนรับคนไข้ประกันสังคมในปีนี้เพิ่มอีกมากกว่า 10,000 ราย/โรงพยาบาลในเครือ โดยวางเป้าหมายเพิ่มฐานลูกค้าประกันสังคมในปี 64 เป็นกว่า 900,000 ราย จากปัจจุบันมีฐานลูกค้าโรงพยาบาลในเครือทั้งหมดรวมกว่า 880,000 แสนรายแล้ว ส่งผลให้บริษัทฯ ยังมีปัจจัยสนับสนุนรายได้เข้ามาเสริม


นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโรงพยาบาลใหม่ทั้ง 2 แห่งเข้ามาเพิ่มในปีนี้ ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี ที่เปิดให้บริการไปแล้วในช่วงเดือนม.ค. 64 จำนวน 115 เตียง และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องมือทางการแพทย์ และจะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงเดือนมิ.ย. 64 ในเฟสแรก จำนวน 110 เตียง ทำให้บริษัทเริ่มมีรายได้จากโรงพยาบาลใหม่เข้ามา และมั่นใจว่ารายได้ในปี 64 จะสามารถเติบโตได้ในตัวเลขสองหลัก


ส่วนความคืบหน้าในการศึกษาลงทุนศูนย์มะเร็งนั้นยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน คาดว่าจะมีความชัดเจนในการลงทุนออกมาในช่วงไตรมาส 3/64 และหลังจากนั้นจะเริ่มก่อสร้างศูนย์มะเร็งได้ภายในปี 65


BCH มีราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus อยู่ที่ 18.26 บาท โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 20.20 บาท และมีราคาเป้าหมายต่ำสุดที่ 15.00 บาท

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 14.50 แล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 16.00 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 18.00 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 14.50 ลงไป จะเป็นสัญญาณขายหุ้นออกไปก่อน


สนใจบทความย้อนหลัง และเรื่องราวที่น่าสนใจ สามารถหาดูได้ในเพจ Trendtalk

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X