ทันหุ้น –MEGA ปักธง 5-7 ปี ผลงานโตเท่าตัว หรือเฉลี่ยปีละ 6-10% สอดคล้องเทรนด์การรักสุขภาพมากขึ้น เดินหน้าพัฒนาโปรดักซ์ต่อเนื่อง พร้อมลุยพัฒนาโปรดักซ์ที่มีส่วนผสมัญชง ฟากโบรกมองปีนี้กำไรโต 12% แตะ 1.52 พันล้านบาท ระยะยาวเติบโตดี ประเมินราคาเหมาะสม 49 บาท

นายวิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการในระยะ 5-7 ปีจะเติบโตเท่าตัวทั้งรายได้และกำไรสุทธิ เทียบกับปี 2562 ที่มี รายได้ 11,179 ล้านบาท และมีกำไร 1,138 ล้านบาท โดยทุกปีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 6-10% ทั้งนี้การเติบโตจะมาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทเดินหน้าในการพัฒนาโปรดักซ์ต่อเนื่อง

โดยปีนี้จะมีโปรดักซ์อีกราว 60 โปรดักซ์ ปี 2565 อีกราว 30-40 โปรดักซ์ ทั้งในส่วนของอาหารเสริม ทั้งในเด็กและกลุ่มแม่รวมไปถึง ทั้งวิตามินซี วิตามินดี รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ยาด้วย ซึ่งบริษัทก็ต้องมีการขออนุญาตองค์การอาหารและยาหรือ อย.ด้วย ทำให้คาดว่าช่วงระยะยาวบริษัทยังเติบโตได้ดี ความต้องการสินค้าของบริษัทยังดีต่อเนื่อง สอดคล้องกับเทรนด์การรักสุขภาพมากขึ้น

*ตลาดต่างประเทศโตดี

ส่วนตลาดที่บริษัทจะมุ่งเน้นคือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงการขยายธุรกิจในทวีปแอฟริกาที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก ส่วนตลาดอินโดนีเซียที่บริษัทเข้าไปลงทุน PT Futamed Pharmaceuticals ในอินโดนีเซีย ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตยา หรือการทำตลาดผลิตภัณฑ์เสริมเพื่อสุขภาพ โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินการในส่วนของการขยายโรงงาน พัฒนาโรงงานเพื่อเก็บยา ซึ่งยังมีแนวโน้มการเติบโตเติบโตได้ดี เพราะตลาดอินโดนีเซียเป็นตลาดที่ใหญ่มาก มูลค่าตลาดถึงระดัลบ 5-6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนตลาดเมียนมาร์ต้องยอมรับว่าปัจจุบันก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ปัจจุบันก็อาจจะกระทบบ้างเช่นการนำเข้าชั่วคราว แต่รยะยาวก็หวังว่าตลาดอาจจะกลับมาดี ส่วนบริษัทก็ยังมีการส่งจำหน่ายยา ในฐานะที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว แต่ก็ดำเนินการตามที่ได้รับการอนุญาติ ทั้งนี้บริษัทธุรกิจในเมียนมาร์มา 25 ปี ก็มีความพร้อมทุกอย่างแข็งแกร่ง

*พ้อมผลิตโปรดักซ์กัญชง

ขณะที่แผนธุรกิจเรื่องของกัญชง หรือ CBD นั้นบริษัทไม่ปิดกั้นโอกาส หากมีใครที่จะสามารถจำหน่ายสารสกัดให้แก่บริษัทได้ และมีคุณภาพสูง บริษัทก็พร้อมที่จะนำมาผลิตมาพัฒนาโปรดักซ์ ซึ่งบริษัทก็มีความพร้อมทุกด้านอยู่แล้ว

สำหรับการลงทุนนอกจากการปรับปรุงและการซ่อมแซมทรัพย์สินถาวรตามปกติในทุกปีแล้ว บริษัท จะมีการใช้เงินลงทุนในช่วงปี 2564-2565 จำนวน 709 ล้านบาทสำหรับโครงการ 1. การก่อสร้ างโรงงานผลิตยาในรูปแบบใหม่ ศูนย์ควบคุมคุณภาพและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ศูนย์กระจายสินค้าและบริการอื่นๆ ในที่เดียวกันในประเทศไทย จำนวน 355 ล้านบาท 2. การก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าและพื้นที่ส านักงานในประเทศพม่า จำนวน 183 ล้านบาท และ3. การก่อสร้ างโรงงานที่ผลิตยาในรูปแบบใหม่ในประเทศอินโดนิเซีย จำนวน 171 ล้านบาท

*ระยะยาวโตต่อเป้า 49 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุถึง MEGA ว่า คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 1,552 ล้านบาท (เติบโต 12%) บนสมมติฐาน 1) รายได้ MWC ขยายตัว +7% จากปีก่อน จากรายได้ใน Southeast Asia และ Africa เติบโตต่อเนื่อง, 2) รายได้ MC ขยายตัวต่อเนื่อง +10% YoY จาก principal ที่เพิ่มขึ้น และ 3) gross profit margin ปรับตัวลงเล็กน้อย จากสัดส่วนรายได้ของ MC ที่เพิ่มขึ้น ทำให้คงราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 49.00 บาท อิง PER 27.7 เท่า (เทียบเท่า +0.75SD above 5-yr avg PER) มองว่าจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป health conscious มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ MEGA ได้ประโยชน์ในระยะยาว

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1