> SET >

29 มีนาคม 2021 เวลา 10:17 น.

ASPS แนะสะสม 3 หุ้น ปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวแรง

ทันหุ้น - บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS มองภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสขยับขึ้นต่อ แม้แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1585 จุด แต่เชื่อว่าน่าจะผ่านไปได้ในระยะถัดไป เนื่องจากองค์ประกอบโดยรวม เริ่มเห็นแรงขับเคลื่อนต่อเนื่องที่ชัดเจนทั้งในและต่างประเทศ หนุนหุ้นหลากหาย Sector พร้อมๆ กัน ผลักดันให้ SET Index มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1640 จุด ในช่วง 1 เดือน ต่อจากนี้ โดยแรงขับเคลื่อนหลักๆ มีดังนี้


1. ราคา Community มีโอกาสยืนในระดับสูง รอการประชุม OPEC+ วันที่ 1 เม.ย. เชื่อว่ายังมีการขยายระยะเวลาปรับลดกำลังผลิตต่อ ระยะสั้นยังได้ Sentiment จากเรื่องขนาดใหญ่ที่ยังกีดขวางคลองสุเอชอยู่ ซึ่งส่งผลดีต่อหุ้นไทยที่มีสัดส่วนหุ้น Community ถึง 1 ใน 4 ของตลาดหุ้นไทย


2. ตัวเลขเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดูดีขึ้นเริ่มเห็นสัญญาณดีในตัวเลขส่งออก(สัดส่วน 70% ของ GDP) เดือน ก.พ. หากหักทองคำและอาวุธออก จะพลิกจากหดตัว 2.6% เป็นขยายตัว 2.9% รวมถึงค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่า ภาคการท่องเที่ยว(สัดส่วน 70% ของ GDP) เริ่มมีการเปิดให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนเข้ามาในประเทศได้เร็วขึ้น


3. คาดหวังเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เน้นการลงทุนมากขึ้นทางสคร. คาดว่าจะมีโครงการลงทุนในปีนี้สูงถึง 4 แสนล้านบาท ดีต่อหุ้นรับเหมาฯ, วัสดุก่อสร้าง


4. การกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐตามนโยบายของ ปธน. โจ ไบเดน รอความชัดเจนเรื่อง Infrastructure, พลังงานสะอาด ดีต่อหุ้นไทยที่มีการลงทุนในบริษัทแบตเตอรี่ อาทิ GPSC, EA, BANPU, BCPG เป็นต้น


สรุปคือตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้มีประเด็นบวกที่หนุนในหลากหลาย Sector มิหนำซ้ำจากสถิติในอดีตย้อนหลัง 10 ปี SET Index ในเดือน เม.ย. ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดเมื่อเทียบกับเดือนอื่น ๆ อยู่ที่ 3.1%

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนเลือกหุ้นสปริง คือ หุ้นที่แม้ช่วงเม.ย. ของปีที่แล้วเผชิญวิกฤตหนัก แต่ปีนี้มีแนวโน้วฟื้นตัวเห็นได้ชัด แนะนำ MAJOR, STEC, BBL มีรายละเอียดพื้นฐานดังนี้ 


BBL (FV @ 154.00) หนึ่งในหุ้นที่ได้แรงหนุนจากภาวะฟื้นตัวของเศรษฐกิจ บวกกับได้แรงหนุนประเด็นบวกจากมาตการ Soft Loan+ Asset Warehouse ขณะที่ราคาหุ้น Laggard กลุ่มธพ.มาก โดยปรับตัวขึ้นเพียง 5.9%ytd ขณะที่กลุ่ม ธพ. ปรับตัวขึ้นถึง 7.9%ytd


STEC (FV @ 18.00) ทิศทางธุรกิจรับเหมาก่อสร้างปีนี้สดใส พิจารณาจากโครงการเมกะโปรเจ็คภาครัฐที่มีแผนเปิดประมูลจำนวนมาก อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกและสายสีม่วงใต้, รถไฟทางคู่เส้นทางเด่นชัย-เชียงของ รวมถึงงานก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวง เป็นต้น อีกทั้งโครงการรัฐสภาแห่งใหม่ที่มี margin 0% มีกำหนดส่งมอบงานทั้งหมดภายใน เม.ย.64 เชื่อว่า gross margin ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่ 2Q63 โดยประเมิน Gross margin ปีนี้จะทำได้ไม่ต่ำกว่า 5% เทียบกับปี 2563 ที่ทำได้เพียง 4.4% และประเมินรายได้ก่อสร้างเติบโต 7%YoY สู่ระดับ 3.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีBacklog รองรับแล้วทั้งหมด


MAJOR (FV @ 24.00) อุตสาหกรรมโรงหนังทั่วโลกกำลังเข้าสู่โหมดฟื้นตัว โดยตัวเลขBox office ในสหรัฐฯดีขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเดือน มี.ค. ทำยอดขายตั่วเฉลี่ยราวสัปดาห์ละ 20 ล้านเหรียญ โดยหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Gozilla VS Kong รายได้กระโดดอยู่ที่ 300 ล้านทั่วประเทศ (เข้าฉายเพียง 4 วัน) คาดว่ายอดขายตั๋วและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจะฟื้นตัวโดดเด่นต่อจากนี้ จากหนังดังที่พร้อมจะสร้างปรากฏการณ์ อาทิ Black Widow, Fast 9 เป็นต้น ทำให้ผลประกอบการใน 2Q64 น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่นทั้ง QoQ และ YoY


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X