ทันหุ้น – จับตาอนาคต SABUY กับดีลสำคัญยักษ์มาร์เก็ตเพลส ดันบริษัทเข้าสู่ยักษ์เทคโนโลยีเปย์เมนต์ กุมฐานผู้ใช้บริการสูงเป้าปีนี้ 50 ล้านบัญชี จากปัจจุบันมีฐานผู้ใช้บริการ 25 ล้านรายแล้ว “ชูเกียรติ” เดินหน้าผนึกพาร์ทเนอร์ครบ 10 ดีล ชี้ฐานลูกค้าและจุดให้บริการที่พุ่งจะทำให้บริษัทเนื้อหอมเป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจต้องการ รับมีกองทุนนอกสนใจโมเดล พร้อมแตกไลน์ร่วมพันธมิตรสู่ธุรกิจอนาคต ทั้ง ลิสซิ่ง นายหน้าประกัน

นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ผู้ดำเนินธุรกิจด้านระบบชำระเงิน และ ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ตู้เติมเงิน เปิดเผยว่า ทิศทางของบริษัทกำลังมุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้านการชำระเงิน หลังจากที่บริษัทประสบความจากการเข้าร่วมมือกับพันธมิตรเป็นจำนวนมาก โดยบริษัทมั่นใจจะสามารถปิดดีลการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ได้ครบ 10 ดีล จากปัจจุบันร่วมมือกับพาร์ทเนอร์แล้ว 4 ดีล

@มีดีลยักษ์มาร์เก็ตเพลส

โดยจะเริ่มดีลถัดไปประมาณเดือนหน้า หรือ เมษายน หนึ่งในดีลดังกล่าวคือการร่วมมือกับยักษ์ใหญ่มาร์เก็ตเพลส หากสามารถร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ได้ตามแผน จะทำให้ภาพกลุ่มผู้ใช้บริการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนช่วงไตรมาส 4/2564 โดยบริษัทตั้งเป้าจะมีกลุ่มผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นแตะ 50 ล้านบัญชีภายในสิ้นปี 2564

นายชูเกียรติ ระบุว่า ฐานผู้ใช้บริการและจุดขายต่างๆ ที่บริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ ดังนั้นบริษัทจึงให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าค่อนข้างมาก ก่อนหน้านี้บริษัทมีจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 7-8 ล้านราย ล่าสุดจากการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ยักษ์ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด เพื่อร่วมกันดำเนินธุรกิจ ผ่าน Ecosystem พร้อมมีแผนเปิดบริการเติมเงินระหว่างสบายมันนี่ และทรูมันนี่ วอลเล็ท โดยทรูมันนี่มีฐานลูกค้าอยู่ที่ 17 ล้านราย ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นมาเป็น 24-25 ล้านราย

สำหรับพันธมิตรของบริษัทประกอบด้วย ได้แก่ การร่วมมือกับบริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด โดยจัดตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ “บริษัท สบาย เอ็กเชนจ์ จำกัด” เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ในการเติบโตของกลุ่มบริษัท ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อสร้างระบบ Ecosystem และเสนอผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้า

@ผนึกพาร์ทเนอร์

การร่วมมือกับบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART เพื่อผนึกลูกค้าที่เติมเงินผ่านตู้บุญเติมก็สามารถที่จะเติมเงินเข้า SABUY Money Wallet (SBM Wallet) ได้เช่นกัน , การร่วมมือกับ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เพื่อให้บริการโอนเงินไปต่างประเทศกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยผ่านระบบ SpeedSend จาก CIMBT

การร่วมมือกับบริษัทในเครือบริษัท KOVAN จากประเทศเกาหลีใต้ ที่มีประสบการณ์ในประเทศเกาหลีใต้กว่า 30 ปี คือ บริษัท ไทยแวน เซอร์วิส จำกัด ที่เปิดธุรกิจในไทยมาแล้ว 15 ปี ผู้ให้บริการระบบดิจิตอลเน็ตเวิร์คในระบบการชำระเงิน e-payment และ ระบบ Loyalty Program

การร่วมมือกับบริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ IIIโดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ Shipsmile ในสัดส่วน 20% ส่วน III ซื้อหุ้น 30% ทั้งนี้ Shipsmile เป็นธุรกิจการขายแฟรนไชส์ให้ผู้ประกอบการในการให้บริการทั้งงานไปรษณีย์ เป็นจุดรวบรวมการขนส่งพัสดุภายในประเทศจากบริษัทขนส่งชั้นนำ เช่น แฟลช เอ็กซ์เพรส (Flash) ไปรษณีย์ไทย DHL และ LEX Express เป็นต้น

และล่าสุดร่วมมือกับ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด เพื่อร่วมกันดำเนินธุรกิจในทุกช่องทาง ผ่าน Ecosystem พร้อมมีแผนเปิดบริการเติมเงินระหว่างสบายมันนี่ และทรูมันนี่ วอลเล็ท

@ อนาคตขยายไลน์สู่ลิสซิ่ง-ประกัน

นายชูเกียรติ ระบุว่า การที่บริษัทซึ่งมีความผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการ e-payment ที่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก ได้ผนึกพาร์ทเนอร์ จะช่วยสนับสนุนการต่อยอดธุรกิจให้มีเครือข่ายเพิ่มขึ้น และสะดวกสบายต่อการดำเนินธุรกิจร่วมกัน โดยบริษัทมีแนวทางในการจัดสรรผลประโยชน์ให้กับพาร์เนอร์ทุกรายให้มีผลตอบแทนที่สูงขึ้น

“แน่นอน อี-เพย์เมนท์ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการดำเนินการ แต่แนวทางของบริษัทก็จะเหมือนกับ ตู้ ATM ซึ่งร่วมมือกับทุกค่าย และจัดสรรผลประโยชน์ต่างๆให้พันธมิตรแต่ละรายมีผลตอบแทนที่ดีที่สุด ช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ซึ่งสิ่งที่บริษัทหวังนั้นคือต่อยอดฐานลูกค้าต่างๆ ในอนาคต”

โดยฐานลูกค้าที่สูงราว 50 ล้านราย จะทำให้บริษัทสามารถต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นเช่น ธุรกิจลิสซิ่ง ธุรกิจนายหน้าขายประกัน เพื่อให้ครอบคลุมทุกธุรกิจ และสร้างช่องทางให้ผู้ใช้บริการสะดวกสบายมากขึ้น และพาร์เนอร์ได้ผลประโยชน์

สำหรับการเติบโตปี2564 บริษัทตั้งเป้าโต 25% ยังไม่รวมกับการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์จำนวน 10 ดีล โดยอัตราการเติบโตที่ตั้งเป้าจะมาจากธุรกิจปกติ โดยบริษัทตั้งเป้าขยายตู้เติมเงินแตะ 5.8-5.9 หมื่นตู้ จากปี 2563 อยู่ที่ 5.5 หมื่นตู้ และตั้งเป้าขยายตู้เวนดิ้งพลัสแตะ 1.2 หมื่นตู้ จากปี 2563 อยู่ที่ 5.8 พันตู้ ขณะเดียวกันการขยายตู้เวนดิ้งพลัส บริษัทอาจจะใช้กลุทธ์การควบรวมกิจการ หรือ M&A เพื่อผลักดันให้ได้ตู้ตามเป้าหมาย และทำให้ต้นทุนต่ำลง อนึ่ง ปี 2563 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1.54 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 102.06 ล้านบาท

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1