> SET > SPCG

12 มีนาคม 2021 เวลา 10:45 น.

SPCGโซลาร์ฟาร์มEEC ชู500เมกเป้า2.5พันล

ทันหุ้น—SPCG ปักธงรายได้ปี2564 ที่ 5.5 พันล้านบาท เผยปีนี้โครงการโซลาร์ฟาร์มใน EEC แล้วเสร็จ 300 เมกะวัตต์ หาก COD ครบ 500 เมกะวัตต์ สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 2.5 พันล้านบาทต่อปี เดินหน้าศึกษาโครงการใหม่ๆต่อเนื่อง พร้อมลุยธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปโกยเงินเพิ่ม


นายพิพัฒน์ วิริยธรานนท์ ผู้อำนวย การฝ่ายการเงิน บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2564 ที่5,500 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 5,047 ล้านบาท โดยรายได้หลักของบริษัทยังมาจากโครงการโรงไฟฟ้า ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ากลุ่มโรงไฟฟ้าจะมีผลผลิตไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 385 ล้านหน่วย


ขณะเดียวกันบริษัทยังเดินหน้าในการพัฒนาโครงการในแผนซึ่งปี2564 บริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กำลังการผลิตรวม 500 เมกะวัตต์  คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส3/2564 คาดว่าปีนี้จะจ่ายไฟฟ้าได้ 300 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออีก 200 เมกะวัตต์ จะเริ่ม COD ได้ในปี 2565


รุกขายไฟในEEC


อย่างไรก็ดีหากโครงการโซลาร์ใน EEC จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบ 500 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทราวปีละ 2,500 ล้านบาท และจะเป็นส่วนสำคัญในการเข้ามาชดเชยรายได้จาก Adder ที่หายไป โดยโครงการเดิมที่ได้รับประโยชน์การได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) 10 ปีของบริษัท จะทยอยหมดอายุลงตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปี 2567 โดยในปี 2563 มีโรงไฟฟ้า 1 แห่ง ส่วนปี2564 นี้มีจำนวน 4 โครงการ ปี 2565 อีกจำนวน 4 โครงการ ขณะที่ปี 2566 รวม 14 โครงการ และปี 2567 อีก 13 โครงการ แม้ว่ารายได้จะลดลงบ้างตามอัตรารับซื้อขายไฟฟ้า แต่บริษัทก็เชื่อว่าโครงการ EEC จะช่วยสนับสนุนรายได้ให้แก่บริษัท ในขณะเดียวกันจะมีโครงการใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมต่อเนื่องด้วย ทำให้รายได้ยังมีแนวโน้มที่เติบโตได้ในระยะยาว


สำหรับธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม ในต่างประเทศมี 2 แห่งที่ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ โครงการโซลาร์ฟาร์ม Ukujima Mega Solar Project ขนาดกำลังการผลิตรวม 480 เมกะวัตต์ ที่ร่วมทุนกับ Kyocera Corporation และบริษัทย่อยอื่นๆ (โครงการนี้ SPCG ถือ 17.92%) ตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ COD ในปี 2566 และจะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2567 ซึ่งจะสามารถรับถึงจุดคุ้มทุนได้ภายในระยะเวลา 12 ปี ตามสัญญาเงินกู้  และยังมีโครงการ Tottori Yonago Mega Solar Power Plant กำลังการผลิตไฟฟ้า 30 เมกะวัตต์


ส่วนธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) เดินหน้าในการขยายธุรกิจดังกล่าวต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มลูกค้าที่เป็นบ้านพักอาศัย รวมไปถึงลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีความต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งบริษัทก็มีการจับมือกับพันธมิตรเพื่อปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้าด้วย ซึ่งเป็นโอกาสสร้างการเติบโตต่อเนื่อง


แจกเงินปันผลที่5-6%


บริษัทหลักทรัพย์ โนมู ระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุถึง SPCG ว่าการรุกโครงการโรงไฟฟ้าในพื้นที่EEC เป็นปัจจัยที่จะช่วยสร้างฐานกำไรใหม่ของบริษัทให้อยู่ราว 1,700 ล้านบาท หลังจากที่ฐานกำไรเก่าจะหายไปหลังจาก Adder จะค่อยๆทยอยหมดลงในช่วงปี 2566- 2567(เดิมประเมินฐานกำไรจะลดลงมาอยู่ระดับ 600 - 700 ล้านบาทในปี 2568) และดีลนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการขยายตัวครั้งใหม่ของบริษัท


ปรับมูลค่าพื้นฐานปี 2564 อิง SOTP เป็น 27.90 บาท (มูลค่าของธุรกิจ solar farm อยู่ที่ 23.34 บาท และธุรกิจ solar roof อยู่ที่ 4.56 บาท) โดยประเมินโครงการใหม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ 8.77 บาท/หุ้น (รวม EPS dilution แล้ว) ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมี PER 20Fเพียง 7.8 เท่า (ค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 12.7 เท่า) อีกทั้งมี dividend yield สูง 5-6% ต่อปี คาดกำไรปี 2564 อยู่ที่ 2,455 ลบ. (-6% y-y) และมีการปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้น 14% จากคาดโครงการโรงไฟฟ้าใหม่จะเริ่ม COD ในปีดังกล่าว


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X