โบรกฯ คาดดัชนี Sideway เน้น Trading ชู CRC-EKH เด่น

ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ระบุ SET Index  ปิดที่ระดับ 1496.78 จุด (+5.67 จุด) ช่วงนี้ดัชนีเป็นการแกว่งตัวสะสมกำลังออกด้านข้าง ในช่วงกรอบบริเวณ 1495-1510 จุด เรายังให้น้ำหนักในภาพหลักเป็นเชิงบวก โอกาสการขึ้นยังมีมากกว่า

กลยุทธ์การลงทุน

มีหุ้น  ทยอยแบ่งขายทำกำไร จนกว่าดัชนีจะกลับมายืน 1511 จุด

ไม่มีหุ้น  รอผ่าน 1511 จุด Follow buy ตาม หรือ รอเก็งกำไรที่แนวรับ 1478 จุด

ประเมินแนวรับ 1495/1487  แนวต้าน 1510/1530

**บล.เคทีบีเอสที คาดกรอบดัชนีฯ (1-5 มี.ค.64) 1460-1520 จุด  กำลังผ่านช่วงการส่งงบหุ้นไทยในวันจันทร์  ดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวลงหลังผ่านช่วงเวลานี้ไปแล้ว ทิศทาง Bond Yield ของสหรัฐฯ มีผลชี้นำตลาดหุ้นไทย ประเมินสัปดาห์นี้ แรงขาย Bond อาจลดลงเพราะลงมามาก จับตาทางแก้ของ Fed และ รัฐบาลสหรัฐฯ  กลยุทธ์ ตลาดยังเหมาะกับการเล่น Trading  หรือ รอบสั้นๆ มากกว่า หุ้นขึ้น “XD” ไปแล้วความสนใจจะลดลง  ตลาดสินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลกยังป่วนจาก  Bond Yield สหรัฐฯ (10 ปี)ขึ้นแตะ 1.4%  แต่คาดทางการ(สหรัฐฯ) น่าจะมีมาตรการคือวิธีการบางอย่างออกมา เพื่อชะลอการขายพันธบัตรลง 

ตลาดหุ้นวันจันทร์(1) น่าจะดีขึ้น แผนกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ $1.9 ล้านล้านเหรียญ ผ่านสภาล่างมาแล้วเมื่อวันเสาร์ ด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้นักลงทุนให้น้ำหนักการเติบโตของ GDP อยู่ต่อไป (สนับสนุนให้ Bond Yield ขึ้นต่อ) หลายๆ ประเทศวัคซีนทยอยใช้กันแล้ว  หลายประเทศทยอยปลด lock down อาทิ อังกฤษ  และจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาในหลายๆประเทศ ทำให้หุ้นที่อิงรายได้จากการท่องเที่ยว จะยังพอเดินหน้าต่อไป (เราชอบ CRC, CENTEL, DOHOME) รายงานกำไรตลาด ล่าสุด 529 บริษัท กำไร SET ที่รายงานมาแล้ว 6.7 หมื่นลบ. -64% YoY ; -61% QoQ (กำไร SET ที่ไม่รวมหุ้น THAI จะอยู่ที่ 1.59 แสนลบ.  -16% YoY ; +4% QoQ  ดีกว่าที่ตลาดคาด 12% (Bloomberg Survey)

Event สัปดาห์นี้ ประกอบด้วย OPEC ประชุม 4 มี.ค. พิจารณากำลังการผลิตเดือน เม.ย.  ตัวเลข PMI & ISM ของประเทศต่างๆ  ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ (5) ส่วนของไทย จะเป็นตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค (4)

#Strategy

ตลาดหุ้นไปผูกกับ Bond Yield ทำให้ผันผวน ซึ่งน่าจะจบภายใน 1-2 สัปดาห์ เล่นได้เพียง Trading  ไปก่อน ถ้าดัชนีฯลงมาใกล้ๆ แนวรับ 1460-1470 จุด แนะเข้าซื้อเพื่อเล่นรอบสั้น  ... Sector ที่น่าสนใจในรอบต่อไป เป็นธุรกิจที่กำไรสร้าง Trend ใหม่ เช่น ธุรกิจที่อิงรถ EV ( EA, KCE, SAT) และอาหาร-เครื่องดื่ม( RBF, NRF, TU)  เป็นต้น ... พอร์ตหุ้นวันนี้ เรานำหุ้น MINT ออก และนำ CRC เข้ามาแทน หุ้นในพอร์ต CRC(15%), NRF(10%), THCOM(10%), TU(15%), KCE(20%), DOD*(10%), SINGER(15%)

#Strategy top picks

CRC: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 36.00 บาท) “ธุรกิจแฟชั่น อาหาร ฮาร์ดไลน์ฟื้นตัว”

• ธุรกิจห้างสรรพสินค้ามีโอกาสฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อผู้คนมีความเชื่อมั่นต่อการควบคุมสถานการณ์โควิด-19

• ผู้ติดเชื้อใหม่ในไทยและอิตาลี (CRC มีห้างสรรพสินค้าที่นั่น) โดยเฉลี่ยยังลดลงพร้อมกับการกระจายวัคซีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

• Bloomberg Consensus ประเมินกำไรเฉลี่ยของ CRC ปี 2020-2021 ที่ 368 ลบ. และ 5.3 พัน ลบ. เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2021

# Technical: SIS, ASIAN

**บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index จะปรับตัวลงทสดสอบแนวรับ 1,475-1,480 จุดตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับลงแรงเมื่อวันศุกร์จากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยโลกที่มีโอกาสปรับขึ้น ส่งผลให้ Bond Yield พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ Short Index Future 2 วันล่าสุดรวมถึงราว 2.5 หมื่นสัญญา (ราว 5,000 ลบ.) แต่บรรยากาศการลงทุนเช้านี้ถือว่าผ่อนคลายขึ้นพอสมควร โดยเริ่มเห็นเม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงบ้างทั้งหุ้นและพันธบัตร 

อย่างไรก็ตามปัจจัยในประเทศโดยเฉพาะการเมืองอาจมีแรงกดดันมากขึ้นทั้งการประท้วงและมีการสลายการชุมนุมวานนี้ รวมถึงการปรับครม.ว่าจะราบรื่นหรือไม่โดยเฉพาะโควต้ารัฐมนตรีทั้งภายในพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมอื่น ส่วนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 4Q20 ออกมาเกือบครบแล้ว โดยรวมใกล้เคียงคาด -1% Q-Q, -32% Y-Y และทั้งปี 2020 –35% Y-Y ระยะสั้นเราคาดตลาดยังผันผวนจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต แต่ยังมองการปรับฐานของดัชนีเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานระดับแรกบริเวณ 1,450-1,460+- จุด 

กลยุทธ์ : เตรียมรับแรงกระแทกระยะสั้น//ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานบริเวณ 1,450-1,460+-

หุ้นเด่นเดือนมี.ค. : BEM, DOHOME, KKP, PTTEP, TVO

หุ้นเด่นวันนี้ : EKH

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6 บาท

• กำไรสุทธิ 4Q20 +91% Q-Q, +142% Y-Y ดีกว่าคาดมากถึง 40% จาก Margin ที่แข็งแกร่ง หนุนทั้งปี 2020 -55% Y-Y 

• ระยะสั้น 1Q21 คาดอ่อนตัวจากการ Lockdown สมุทรสาคร แต่แนวโน้มปี 2021 คาดฟื้น +63% Y-Y และอาจมี Upside

Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคสูงถึง US$6,304 ล้าน จากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ โดยไหลออกหนักที่ไต้หวันและเกาหลีใต้ US$3,544 ล้านและ US$2,713 ล้าน ตามลำดับ ขณะที่ตลาดหุ้น TIP มีเม็ดเงินไหลออกบางๆ ส่วนไทยปิดทำการ แนวโน้มของกระแสเงินทุนวันนี้มีโอกาสพลิกกลับมาไหลเข้ายกเว้นไทย ขณะที่กระแสเงินทุนระยะนี้คาดยังผันผวนสูงจากประเด็นเงินเฟ้อที่ยังสร้างความกังวล

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1