โบรกฯ คาด SET ผันผวนก่อนหยุดยาว MINT-MAKRO น่าสน

ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ระบุ SET Index  ปิดที่ระดับ 1491.11 จุด (-9.50 จุด) ทิศทางช่วงนี้เป็นการแกว่งตัวออกด้านข้าง ในกรอบ 1478-1505 จุด โดยรอบหลักตราบใดที่ยังเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1478 จุด ทิศทางโดยรวมยังคงเป็นเชิงบวกมีลุ้นขึ้นปิด Gap ที่ 1511 จุดอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน

มีหุ้น  ทยอยแบ่งขายทำกำไร จนกว่าดัชนีจะกลับมายืน 1511 จุด

ไม่มีหุ้น  รอผ่าน 1511 จุด Follow buy ตาม หรือ รอเก็งกำไรที่แนวรับ 1478 จุด

ประเมินแนวรับ 1487/1478 แนวต้าน 1500/1505

**บล.เคทีบีเอสที  คาดดัชนีฯ ผันผวนก่อนเข้าสู่วันหยุดยาว ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นช่วยตลาดได้ แต่แรงขายหุ้นจาก Bond Yield พุ่งยังมีอยู่ นักลงทุนให้ความสนใจกับการรายงานกำไร 4Q โค้งสุดท้าย กลยุทธ์  เราแนะนำชะลอการลงทุนก่อนเข้าวันหยุดยาว หรือเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น เน้นหุ้นงบสวยและดีเกินคาด การที่ Bond Yield ของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง (คืนที่ผ่านมา Bond อายุ 10 ปี ขึ้นสูงสุด 1.42%) แม้ประธาน Fed จะส่งสัญญาณว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอีกนาน (มากกว่า 1 ปี)  หุ้นสหรัฐฯ อาจจะดีเพราะกลับมาเล่นด้วยเรื่อง Reflation Trade จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ (ที่กลบความกังวลเรื่องเงินเฟ้อได้)

หุ้นธนาคาร-น้ำมันของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น ตลาดบางตลาดที่อิงเศรษฐกิจกับสหรัฐฯอาจดีตามในวันนี้ หลังดัชนี Dow Jones บวกไปถึง 424 จุดในคืนที่ผ่านมา(24)  แต่เชื่อว่าตลาดส่วนใหญ่ ใน EM (ไม่รวมจีน) ที่เศรษฐกิจยังไม่แข็งแรง หาก Bond Yield ขยับขึ้นมาสูง จนทำให้ต้นทุนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น จะกลายเป็นลบมากกว่า ซึ่งตลาดไทยน่าจะเข้าในข่ายนี้ จึงมองว่าตลาดหุ้นไทย อาจทำได้แค่ rebound ช่วงสั้นๆ หากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาดัชนีฯ มีแนวโน้มที่จะลงต่อหลังรายงานกำไรตลาดสิ้นสุดลง (วันสุดท้ายของการส่งงบ คือ 1 มี.ค)

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นแตะ $66 เหรียญแล้วตามภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่หุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมามาก จึงได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันไม่มากนัก ตัวแปรอื่นๆ ของตลาด การที่ 3 รมต. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม เป็นผลจากคดีจัดชุมนุมขับไล่รัฐบาล ช่วงปี 2556-57 มีผลลบต่อตลาด แต่คาดไม่มากนัก  รายงานกำไรตลาด ล่าสุด 395 บริษัท กำไร SET ที่รายงานมาแล้ว 1.58 แสนลบ. -10% YoY ; +4% QoQ ดีกว่าที่ตลาดคาด 12% (Bloomberg Survey)  นอกจากนี้ Event อื่นๆ คือ MSCI ทำ rebalancing โดยมีการนำ OR เข้าคำนวณดัชนีฯ  รายงานตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ม.ค.ของไทย (คาด -4.4% YoY) และ ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจ เดือน ม.ค.

#Strategy

ประเมินว่าดัชนีฯ อาจทำได้แค่ rebound ช่วงสั้นๆ หากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาดัชนีฯ มีแนวโน้มที่จะลงต่อหลังรายงานกำไรตลาดสิ้นสุดลง (วันสุดท้ายของการส่งงบ คือ 1 มี.ค) กลยุทธ์ เราแนะนำชะลอการลงทุนก่อนเข้าวันหยุดยาว หรือเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น เน้นหุ้นงบสวยและดีเกินคาด พอร์ตหุ้นวันนี้ เราเลือกที่จะถือหุ้นทั้งหมดที่มีต่อ หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย  NRF(10%), THCOM(10%), TU(15%), MINT(15%), KCE(20%), DOD*(10%), SINGER(15%)

#Strategy top picks

MINT: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 32.50 บาท) “วัคซีนทยอยเข้าไทย สถานการณ์โควิด-19 รายวันทั่วโลกกำลังดีขึ้น”

•ยอดการติดเชื้อรายใหม่รายวัน ทั้งในและต่างประเทศโดยเฉลี่ยค่อยๆลดลง พร้อมกับการกระจายวัคซีนที่เพิ่มขึ้น

•ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และได้ขยายระยะเวลาการนับหุ้นกู้ใน Dept Covenant ถึง 2 ปี ช่วยผ่อนคลายการติดเพดาน หนี้สิน/ทุนที่ 1.75 เท่า

•KTBST คาดกำไรปี 2021 ขาดทุนน้อยลงจากปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ โดยขาดทุนที่ 1 หมื่น ลบ. เทียบกับปี 2020 ที่ขาดทุนถึง 2 หมื่น ลบ.

Technical : JMT, MEGA

**บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index จะกลับมาแกว่งตัวในแดนบวกทดสอบระดับ 1,505-1,515 จุดจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกและอยู่ในสถานะ Risk On อีกครั้ง โดยตลาดเริ่มคลายวิตกกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น โดยประธาน FED ยังคงเน้นย้ำต่อภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังห่างไกลจากระดับปกติ และจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินอย่างผ่อนคลาย ทำให้หุ้นในกลุ่ม Cyclical Play อย่างพลังงานและธนาคาร

คาดว่าจะนำตลาดวันนี้

ส่วนปัจจัยในประเทศเราประเมินการเมืองอาจกดดันเล็กน้อยหลังวานนี้ศาลอาญาตัดสินคดีชุมนุมกปปส. ทำให้รมว. 3 รายต้องหลุดจากตำแหน่ง ซึ่งต้องติดตามว่าจะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลและพรรคร่วมหรือไม่ นอกจากนี้ยังเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศผลการดำเนินงาน 4Q20 ของบริษัทจดทะเบียน ระยะสั้นจึงยังเน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 4Q20-1Q21 แข็งแกร่ง ส่วนจังหวะการพักฐานของตลาดเรายังมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานโดยมองระดับแรกบริเวณ 1,450-1,460+- จุด

กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่มีผลประกอบการ 4Q20 แข็งแกร่งและหุ้น Cyclical Play//ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานช่วงตลาดพักตัวและถือ

หุ้นเด่นเดือนก.พ. : CHG, HMPRO, JWD, SYNEX, TACC

หุ้นเด่นวันนี้ : MAKRO

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 50 บาท

• แนวโน้มกำไร 1Q21 คาดยังมีโมเมนตัมดีต่อเนื่องจาก 4Q20 ที่ออกมาดีกว่าคาด +36% Q-Q, +3% Y-Y โดยได้อานิสงส์ทางอ้อมจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคภาครัฐ

• ราคาหุ้นปรับตัวลง 9% YTD Laggard กลุ่มค้าปลีกที่ +4% YTD ขณะที่กำไรแข็งแกร่งกว่าผู้เล่นรายอื่นในกลุ่ม Modern Trade อย่าง BJC และร้านสะดวกซื้ออย่าง CPALL

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคอีก US$388 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$886 ล้าน แต่พลิกมาไหลเข้าเกาหลีใต้ US$601 ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$81 ล้าน สูงสุดในกลุ่ม TIP แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดมีโอกาสพลิกมาไหลเข้าหลังเม็ดเงินเริ่มกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งหลังคลายกังวลเรื่องเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้นจากการที่ประธาน FED แสดงมุมมองการดำเนินนโยบายการเงินที่ยังผ่อนคลาย

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1