> Trendtalk > GULF

24 กุมภาพันธ์ 2021 เวลา 06:10 น.

GULF

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1500-1505 จุด หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับที่ 1490 จุดลงไป ทำให้โครงสร้างการเคลื่อนไหวยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1460 และ 1440 จุด โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1515 จุด


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเย็น และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง


นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่ารายได้ของปี 2564 คาดว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 50% จากปี 2563 เนื่องมาจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า IPP 2,650 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการ GSRC หน่วยที่ 1 และ 2 ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 1,325 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเดือนมีนาคมและตุลาคม 2564


อีกทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลที่ประเทศเวียดนาม (Mekong Wind) ระยะที่ 1-3 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 128 เมกะวัตต์ จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเดือน พฤษภาคม และตุลาคม 2564 และโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ประเทศโอมาน จำนวน 326 เมกะวัตต์ (DIPWP) ระยะที่ 1 ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 40 เมกะวัตต์ จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ จะทำให้ GULF มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งเพิ่มขึ้น จาก 6,409 เมกะวัตต์ ในปี 2653 เป็น 7,903 เมกะวัตต์ ในปี 2564


นอกจากนี้ ในปี 2564 บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้กำไรเต็มปีจากโครงการโรงไฟฟ้าลมในทะเล BKR2 และโครงการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ PTT NGD ที่บริษัทฯ ได้เข้าซื้อในสัดส่วน 40% ในเดือน ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ประกอบกับรับรู้เงินปันผลที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในหุ้น INTUCH อีกด้วย


GULF รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2563 โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) เท่ากับ 1,239 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล BKR2 กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 465 เมกะวัตต์ ที่ประเทศเยอรมนี ในไตรมาส 4 ปี 2563 เป็นไตรมาสแรก หลังจากที่ GULF ได้เข้าซื้อหุ้น 50% ในเดือน กันยายน 2563 นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลกัลฟ์ จะนะ กรีน (GCG) กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 25 เมกะวัตต์ ซึ่งได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือน มีนาคม 2563


ในปี 2563GULF มีรายได้รวม (Total Revenue) เท่ากับ 35,833 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2562 และมี Core Profit เท่ากับ 4,478 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จาก 3,509 ล้านบาทในปีก่อน โดยปัจจัยหลักคือการรับรู้กำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล BKR2 กำไรของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล GCG และรับรู้กำไรเต็มปีของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม จำนวน 119 เมกะวัตต์


ประกอบกับต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติที่ลดลงจาก 272.90 บาท / ล้านบีทียู ในปี 2562 เป็น 244.51 บาท / ล้านบีทียู ในปี 2563 ในขณะที่ ค่า Ft เฉลี่ยลดลงในอัตราที่น้อยกว่า จาก (0.1160) บาท / กิโลวัตต์-ชั่วโมง ในปี 2562 เป็น (0.1188) บาท / กิโลวัตต์-ชั่วโมง ในปี 2563 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นจากการขาย (Gross Profit Margin) สูงขึ้น จาก 23.9% ในปี 2562 เป็น 27.6% ในปี 2563


ทั้งนี้กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP 7 โรงภายใต้กลุ่ม GJP ยังมีปริมาณการขายไฟฟ้าให้ กฟผ. เพิ่มขึ้น เนื่องจากในปี 2562 มีการหยุดซ่อมบำรุงหลัก (Major Overhaul) ของโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 6 โครงการ ในขณะที่ปี 2563 มีโรงไฟฟ้า SPP หยุดซ่อมบำรุงหลักเพียง 1 โครงการ ในส่วนของกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP 12 โรงภายใต้กลุ่ม GMP มีปริมาณการขายไฟฟ้าให้ กฟผ. เพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากปี 2563 เป็นปีแรกที่โครงการ 12 SPPs ทั้งหมดภายใต้กลุ่ม GMP ขายไฟฟ้าครบเต็มปีหลังจากทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2560-2562


ปัจจุบัน บริษัทฯ ขายไฟฟ้าให้ กฟผ. ในสัดส่วน 88% และขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมเพียง 12% นอกจากนี้ กำไรในปี 2563 ที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการที่บริษัทฯ ได้รับเงินปันผลจากการลงทุนใน INTUCH จำนวน 295 ล้านบาท และ SPCG จำนวน 142 ล้านบาท อีกด้วย


GULF มีราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus อยู่ที่ 39.08 บาท โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 45.00 บาท และมีราคาเป้าหมายต่ำสุดที่ 34.00 บาท

ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 34.50 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 37.50 ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 30.00-30.50 แต่มีแนวต้านสำคัญในระยะสั้นที่ 35.00 ถ้าสามารถทะลุผ่าขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 37.00


สนใจบทความย้อนหลัง และเรื่องราวที่น่าสนใจ สามารถหาดูได้ในเพจ Trendtalk


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X